โผ 5 รมต.ป้ายแดง “พิชัย ชุณหวชิร” คุมทัพแก้เศรษฐกิจ

26 เม.ย. 2567 | 04:02 น.
อัปเดตล่าสุด :26 เม.ย. 2567 | 04:18 น.

เปิดโผ 5 รมต.ป้ายแดง “ครม.เศรษฐา 2” “พิชัย ชุณหวชิร”รองนายกฯ ควบรมว.คลัง คุมทัพแก้เศรษฐกิจ “เผ่าภูมิ”รมช.คลัง “จิราพร”รมช.พาณิชย์ “พิชิต ชื่นบาน”รมต.สำนักนายกฯ พปชร.ส่ง “อนันต์ ผลอำนวย”นั่งรมต.

การปรับคณะรัฐมนตรี “ครม.เศรษฐา 2” ขณะนี้มีความชัดเจนค่อนข้าง 100% แล้ว ทำให้คาดหมายได้ว่าการ “ปรับ ครม.” อาจจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ 

หลังจากก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ออกมาระบุเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2567 ถึงเรื่องการ ปรับ ครม. ว่า "เมื่อไหร่เหมาะสม ผมปรับ พวกท่านทราบเอง ...ไม่มีแกว่ง ทุกอย่างนิ่งแล้วครับ เป็นไปตามที่ผมบอก ไปว่าถึงเวลาปรับเดี๋ยวก็จะปรับ” 

สำหรับแนวโน้มคนที่จะได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ หรือ “รมต.ป้ายแดง” ใน “ครม.เศรษฐา 2” นั้น เบื้องต้นมี 5 คน 

“พิชัย”รองนายกฯ ควบคลัง

เริ่มจาก พิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐตรี ควบ รมว.คลัง ในโควต้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลด้วย

สำหรับ พิชัย ชุณหวชิร ได้รับการคัดเลือกให้เป็น ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2567   

ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2567 นายพิชัย ได้ลาออกจากประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ, ลาออกจาก ประธานกรรมการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP และ ลาออกจากกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริษัท บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG แล้ว 

พิชัย ชุณหวชิร เกิดเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2492 ปัจจุบันอายุ 75 ปี 

ประวัติการศึกษา  จบปริญญาโท Business Administration, Indiana University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา, ปริญญาตรี การบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

ได้รับ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ บริหารการเงิน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม

ประวัติการทำงาน อาทิ  ประธานกรรมการและกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) , ประธานกรรมการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน),  กรรมการ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) , ประธานกรรมการ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน), ประธานกรรมการ บริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด, กรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), กรรมการ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)

                              โผ 5 รมต.ป้ายแดง “พิชัย ชุณหวชิร” คุมทัพแก้เศรษฐกิจ

“เผ่าภูมิ-จิราพร”ว่าที่รมต.

นอกจากนั้น รัฐมนตรีหน้าใหม่ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ยังปรากฏว่า มีชื่อของ เผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รมว.คลัง และ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีรายงานว่า ทั้งสองคนได้เข้าไปรับแบบฟอร์มเพื่อกรอกประวัติเป็นรัฐมนตรีแล้ว 

เผ่าภูมิ โรจนสกุล เกิดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2526 ปัจจุบันอายุ 41 ปี

สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้นได้ไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทใบที่ 1 จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ บอสตัน, ปริญญาโทใบที่ 2 และ ปริญญาเอก จากคณะเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอิลลินอย ชิคาโก 

หลังจบการศึกษาจากต่างประเทศ เผ่าภูมิ ได้เข้ารับราชการที่สำนักนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เป็นระยะเวลา 1 ปีเศษ แต่พบปัญหาในการผลักดันนโยบายภายในองค์กร จึงลาออก 

ต่อมาได้รับการชักชวนให้เข้ามาทำงานการเมืองในพรรคเพื่อไทย โดยเข้ามาเป็นทีมงานของ ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ตั้งแต่สมัยเป็นเลขาธิการพรรค ในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนเกิดรัฐประหารในประเทศไทย ปี 2557

จากนั้นในปี 2561 ได้รับเลือกให้เป็นรองเลขาธิการพรรค และดำรงตำแหน่งนี้ติดต่อกัน 4 สมัย ก่อนขยับขึ้นเป็น รองหัวหน้าพรรค ในปี 2566 ทั้งเคยเป็นผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย

ในการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2562 เผ่าภูมิ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 33 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีจำนวน ส.ส. มากกว่าจำนวน ส.ส. พึงมี
ต่อมาในการเลือกตั้ง ส.ส.  ปี 2566 เผ่าภูมิ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่ออีกครั้ง ในลำดับที่ 89 ซึ่งไม่ได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง  ต่อมาเมื่อ 12 ก.ย.  2566 ได้รับแต่งตั้งให้ เป็นเลขานุการ รมว. คลัง (เศรษฐา ทวีสิน) 

ประวัติ“จิราพร สินธุไพร”

สำหรับ จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นหนึ่งที่ติดโผ รมต.ป้ายแดงนั้น เกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2530 ที่ ต.หนองทัพไทย อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ปัจจุบันอายุ 36 ปี ย่าง 37 

เป็นบุตรสาวคนโตของ นิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน และอดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ กับ เอมอร สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย มีน้องสาว 1 คน คือ ชญาภา สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 8

จิราพร สินธุไพร จบการศึกษาจากโรงเรียนยโสธรพิทยาคม จ.ยโสธร ก่อนเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย ที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย กรุงเทพฯ  

จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์บัณฑิต จาก ม.อัสสัมชัญ, ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต จาก ม.รามคำแหง ปริญญาโทใบที่สอง Master of Science (International Business) University of Reading ประเทศอังกฤษ เเละขณะนี้กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

ก่อนเข้าสู่วงการการเมือง จิราพร สินธุไพร เคยทำงานเป็นนักวิชาการพาณิชย์ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ 

ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อ 24 มี.ค. 2562 ในเขตเลือกตั้งที่ 5 จังหวัดร้อยเอ็ด สังกัดพรรคเพื่อไทย และได้รับเลือกตั้งครั้งแรก โดยมีคะแนนสูงเป็นอันดับที่ 1 ของร้อยเอ็ด ได้ 58,842 คะแนน

ต่อมา จิราพร สินธุไพร ได้รับแต่งตั้ง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้ง ปี 2566 จิราพร ลงสมัคร และชนะการเลือกตั้ง ได้รับคะแนนเสียง 61,288 คะแนน สูงที่สุดในประเทศ 

                        โผ 5 รมต.ป้ายแดง “พิชัย ชุณหวชิร” คุมทัพแก้เศรษฐกิจ

“พิชิต”รมต.สำนักนายกฯ

โควต้าพรรคเพื่อไทยอีกคนที่จะได้เข้ามาเป็น รมต.หน้าใหม่ คือ พิชิต ชื่นบาน มือกฎหมายตระกูลชินวัตร ได้รับความไว้วางใจให้เป็นทีมทนายความสู้คดีหลายคดี  

โด่งดังจากกรณีที่ศาลมีคำสั่งจำคุก ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความ ทักษิณ ชินวัตร กรณีหิ้วถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาท ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ระหว่างการพิจารณาคดีที่ดินรัชดาฯ ของศาลฎีกานักการเมือง จนศาลมีคำสั่งจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล

จากนั้น พิชิต ได้เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และมีบทบาทสนับสนุนกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ก่อนจะเป็นชนวนการรัฐประหารปี 2557

พิชิต ยังเคยเป็นหัวหน้าทีมทนายความที่ต่อสู้คดีให้กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในคดีรับจำนำข้าว ก่อนที่ศาลจะสั่งจำคุกยิ่งลักษณ์ เป็นเวลา 5 ปี จนต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ

ในปี 2562 พิชิต กลับมามีบทบาทเป็นประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ ก่อนที่พรรคไทยรักษาชาติ จะถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค 

มาปี 2566 ภายหลังพรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ชื่อ พิชิต ก็มาโผล่จะเข้ามาเป็นรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นโควตาจาก “บ้านจันทร์ส่องหล้า” 

แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ทำให้ พิชิต วืดไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ใน “ครม.เศรษฐา 1” 

พอมาปี 2567 ชื่อ พิชิต ก็ปรากฏอีกครั้งว่าจะได้เข้ามาเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ...เชื่อว่าครั้งนี้คงไม่พลาดแน่นอน

“อนันต์ ผลอำนวย”โผรมต.พปชร.

สำหรับในส่วนของ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งมีโควต้ารัฐมนตรีว่างอยู่ 1 ที่นั่ง จากเดิมมีชื่อ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1 จะได้เป็นรัฐมนตรีนั้น
ล่าสุด บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้หารือเป็นการภายใน และมีมติส่งรายชื่อ อนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร เขต 3 ให้ขึ้นเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์

โดยที่ นายไผ่ ลิกค์ ก็ยินยอม ไม่ได้มีปัญหาอะไร ขอเพียงให้ ส.ส.กำแพงเพชร ได้เป็นรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม อีกกระแสก็มีชื่อ อรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา ว่าจะได้เข้ามาเป็น รมช.เกษตรฯ ในโควตาพลังประชารัฐ

นี่คือบางส่วนของโฉมหน้า “รัฐมนตรีป้ายแดง” ที่มีรายชื่อติดโผ มารอดูกันว่าในที่สุดแล้วทั้งหมดจะได้เป็นรัฐมนตรี หรือมีใครหลุดไปบ้างหรือไม่...