วิเคราะห์เพื่อไทย วันที่ไร้เก้าอี้กระทรวงเกษตรฯ

02 พ.ค. 2567 | 09:44 น.

"รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล" วิเคราะห์พรรคเพื่อไทย หลังปรับครม.เศรษฐา 1/2 ไร้คนของพรรคนั่งบริหารในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นักวิชาการชี้ ควรส่งคนรุ่นใหม่ประกบ ร้อยเอก ธรรมนัส จะได้เห็นฟอร์มการเมืองแบบสดบดเก๋า

การปรับครม.เศรษฐา 1/2 สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้นายไชยา พรหมมา สส.เพื่อไทย เขต2 หนองบัวลำภู พ้นจากตำแหน่ง รมช. เกษตรและสหกรณ์ และได้แต่งตั้ง นายอรรถกร ศิริลัทยากร ดำรงตำแหน่ง รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในโควตาพรรคพลังประชารัฐรัฐ (พปชร.) จึงทำให้ในขณะนี้กระทรวงเกษตรไม่มีคนของพรรคเพื่อไทยนั่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่ในกระทรวงเลยแม้แต่คนเดียว

รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับฐานเศรษฐกิจในประเด็นนี้ไว้ว่า การที่พรรคเพื่อไทยไม่เหลือเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ เท่ากับพรรคเพื่อไทยตัดสินใจทิ้งเกษตรกรแล้ว ถือเป็นความเสียหายทางการเมืองที่ประเมินค่าไม่ได้ เพราะในฐานข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรปี 2566 ประเทศไทยมีแรงงานภาคเกษตรอยู่ที่ 18-19 ล้านคน ซึ่งมากกว่าคะแนนที่พรรคเพื่อไทยได้รับจากการเลือกตั้งเป็นเท่าตัว

รมว. และ รมช. เกษตรและสหกรณ์

ผลกระทบที่จะตามมาก็คือ สส.เขต หรือผู้สมัครเลือกตั้งในพื้นที่ ไม่สามารถสร้างคะแนนนิยมในกลุ่มเกษตรกรได้ ทำผลงานได้ลำบากขึ้น เพราะเท่ากับว่าต้องพึ่งจมูกรัฐมนตรีพรรคอื่นหายใจ หากในจังหวัดที่มีกลุ่มเกษตรกรเป็นฐานเสียง ย่อมต้องการการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรโดยตรง เช่น ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง แมลงลง โดยไม่สามารถชดเชยด้วยโครงการดิจิทัล วอลเล็ตได้ เพราะภารกิจของกระทรวงเกษตรไม่ใช่การเอาเงิน 10,000 บาทมาฟาดหัว

โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นมาตรการแบบพาราเซตามอล แต่สิ่งที่เกษตรกรต้องการคือความยั่งยืนในอาชีพ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีโอกาสที่จะขับเคลื่อนได้ แต่กลับทิ้งโอกาสนั้นไปแล้ว 

ครม.เศรษฐา 1/2

แม้การทำงานร่วมกับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตรและสหกรณ์ จะต้องเจอความเก๋าแบบที่นายไชยาเจอ แต่เชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยส่งคนรุ่นใหม่ เช่น สส.น้ำ จิราพร สินธุไพร เข้าไปเป็น รมช. ก็จะได้ความสดของคนรุ่นใหม่ เพราะสส.น้ำ มีฐานเอฟซีอีกนับล้านคน เราจึงอาจจะได้เห็นการโต้ตอบทางการเมืองแบบ "สดบดเก๋า" ซึ่งจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของพรรคเพื่อไทยในทางการเมืองด้วย

สส.น้ำ จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

และแม้พรรคเพื่อไทยจะมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  และรองนายกฯ ดูแลกระทรวงเกษตรอยู่ก็ตาม แต่การเป็นรองนายกฯหากจะทำอะไรก็ต้องผ่านรัฐมนตรีว่าการ เพราะเชื่อว่ารองนายกฯคงไม่กล้าสั่งการข้าราชการในกระทรวงโดยไม่ผ่านรัฐมนตรีว่าการ แม้กระทั่งขับรถเข้ากระทรวงในวันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไม่อยู่ ในทางปฏิบัติก็คงไม่กล้าทำ ดังนั้นระหว่างการเป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแล กับรัฐมนตรีประจำกระทรวง ย่อมมีความแตกต่างกันอย่างมากจึงเป็นที่น่าเสียดายที่พรรคเพื่อไทยทิ้งโอกาสนี้