จับตา“ก.ตร.”ถกพรุ่งนี้ปมความเห็น“กฤษฎีกา”เป็นประโยชน์ต่อ“บิ๊กโจ๊ก’

29 พ.ค. 2567 | 09:13 น.
อัปเดตล่าสุด :29 พ.ค. 2567 | 09:18 น.

“นายกฯ เศรษฐา"นัด ก.ตร. ถกพรุ่งนี้ คาดหารือปม “กฤษฎีกา” มีความเห็นไปในทางเป็นประโยชน์ต่อ "บิ๊กโจ๊ก” กรณีถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 4/2567 วันที่ 30 พ.ค.2567 นี้ เวลา 15.30 น. ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยมีวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย 

วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 3/2567 

วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.วินัย ที่ ก.ตร.มอบหมายให้ทำการแทน เรื่องที่ 2 รายงานสถิติข้อมูลการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2564 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ. 2566 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ระหว่างเดือน เม.ย. 66-ก.ย. 66) เรื่องที่ 3 ขอสำเนารายงานการประชุม ก.ตร. 

วาระที่ 4 เรื่องที่เสนอเพื่อพิจารณา เรื่องที่ 1 การกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำเกี่ยวกับอัตรากำลังพลในกลุ่มสายงานสืบสวนสอบสวน เรื่องที่ 2 การกำหนดกรอบอัตราพัสดุ ระดับสถานีตำรวจ กองบังคับการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรจังหวัด เรื่องที่ 3 การจัดทำคำขออนุมัติกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการ รอบที่ 6 (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2571) เรื่องที่ 4 การมอบหมายให้ชี้แจงเรื่องร้องทุกข์ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อ ก.พ.ค.ตร. วาระที่ 5 เรื่องอื่นๆ

ทั้งนี้ในการประชุม ก.ตร.วันพรุ่งนี้ ต้องจับตาว่าจะมีการหยิบยกประเด็นที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีบันทึกความเห็นกรณีการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกจากราชการไว้ก่อน นายกฯ ต้องนำความกราบบังคมทูลให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง 

เพราะไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะไม่ต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 140 วรรคหนึ่ง เนื่องจากมิใช่การพ้นจากตำแหน่ง เพราะความตาย เกษียณอายุ หรือพ้นจากราชการเพราะถูกลงโทษ ด้วยเหตุที่การออกจากราชการไว้ก่อนมิใช่โทษทางวินัยตามมาตรา 1156 

และกรณีที่เห็นว่า การสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ หากเป็นความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนก็จะชอบด้วยกระบวนการตามกฎหมายและเป็นธรรมแก่ผู้ถูกสอบสวน และการนำความขึ้นกราบบังคมทูล ตามมาตรา 140 วรรค 1 ย่อมเป็นไปด้วยความชอบธรรม มาหารือหรือพูดคุยในที่ประชุมหรือไม่

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. และ ก.ตร. เพื่ออุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งเป็นคำสั่งทางปกครอง ที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) ได้ลงนาม โดยมองว่า เป็นคำสั่งที่มิชอบ 

ประกอบกับก่อนจะมีหนังสือคำสั่งให้ออกจากราชการ พบว่า มีการร่างคำสั่งเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. และลงนามในวันที่ 18 เม.ย. แสดงให้เห็นว่า มีขบวนการให้ออกจากราชการหรือไม่ โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังเตรียมจะยื่นฟ้อง รักษาการ ผบ.ตร. และผู้เกี่ยวข้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบอีกด้วย