“เศรษฐา ศิษย์นายใหญ่ ณ จันทร์ส่องหล้า ไม่มีถอย มีนายใหญ่เจ้าของพรรคเป็นแบ็กอัปไม่มีกลัว เพราะทุกเรื่องนายใหญ่เคลียร์ได้หมด พรรคก้าวไกลยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้มอำนาจ รอบนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี 4ปี แน่นอน และหากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นประธานวุฒิสภาเมื่อไหร่ ก็จะได้รู้ว่า ระบอบทักษิณเป็นอย่างไร พรรคไหนหือ นายใหญ่หวดไม่ยั้ง เพราะมีพรรคสีฟ้ารออยู่แล้ว”
นี่คือฉากทัศน์หน้ากระดานการเมืองไทยต่อจากนี้ ที่ รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ได้วิเคราะห์ผ่านรายการ “เข้าเรื่อง” เผยแพร่ทางยูทูป ฐานเศรษฐกิจ หลังจากผ่านพ้นวันที่ 18 มิถุนายน 2567 มาแล้ว
ดร.ธนพร วิเคราะห์ต่อไปว่าสถานการณ์ทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นได้มีเพียงแค่การยุบพรรคก้าวไกล เพราะยังไม่ได้รับอนุญาตให้มีอำนาจ ซึ่งเห็นได้จากผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 67 ที่ระบุว่า ให้นำพยานเอกสารในสำนวนการไต่สวนคดีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567มารวมไว้ในสำนวนคดีนี้ นั่นหมายความว่าศาลท่านให้นำเอกสารหลักฐานในคดีที่เคยมีคำวินิจฉัยว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายหาเสียงอันเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย และจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองเข้ามารวมไว้ด้วย
ในขณะที่แนวทางการต่อสู้ของพรรคก้าวไกลนั้น พยายามจะแยก 2 เรื่องนี้ออกจากกัน แต่จากผลการพิจารณาจะเห็นว่าศาลท่านไม่ได้คิดเช่นนั้น จึงทำให้เห็นปลายทางได้ว่าโดนยุบแน่ๆ แต่ศาลได้ให้โอกาสพรรคก้าวไกลสามารถต่อสู้อย่างมากที่สุด ด้วยความเข้าใจอารมณ์ของสังคมการเมือง
สำหรับคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีนั้น จะเห็นได้ว่านายใหญ่ ใหญ่กว่าลุงตู่ เพราะศาลไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือหน้าที่การตรวจสอบประวัติรัฐมนตรี เป็นหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยหัวหน้าหน่วยงานคือเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดังนั้นพยานปากเอกจึงเป็นนางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาของนายกฯ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเสี่ยงให้ร้ายผู้บังคับบัญชาของตนเอง
โดยนายกฯเองก็ชี้แจงว่า เป็นเรื่องของระบบราชการประจำ ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงเป็นเรื่องของ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติ หรือเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับนายกฯ
ส่วนคดีนายทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลเพราะไม่มีอะไรที่ต้องกลัวแม้ว่าศาลไม่ให้ประกัน เพราะลูกน้องคือนายกฯ และรมว.ยุติธรรม มีหรือที่ข้าราชการประจำจะปฏิบัติไม่ดีต่อนายใหญ่ ซึ่งจิ๊กซอว์สุดท้ายคือการให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ไปเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถึงวันนั้นจะเข้าใจคำว่า “ระบอบทักษิณ” ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 20ปี ที่แล้ว ทุกวันนี้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐล้วนกลัวนายใหญ่
ปฏิบัติการที่จะยึดเก้าอี้เศรษฐา ไปให้ลุงป้อมถือว่าล่มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สมาชิกพรรคพลังประชารัฐทุกคนยุติการตอบโต้กับนายใหญ่จึงได้ไปต่อในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งหากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนมีปัญหา นายใหญ่ก็พร้อมดึงพรรคสีฟ้ามาทดแทนได้ทันที
สิ่งที่อยากบอกไปยังนักลงทุนในตลาดหุ้นก็คือ ขั้วตรงข้ามพรรคก้าวไกลไม่มีไม่มั่นคง ทิศทางการเมืองไม่มีทางเปลี่ยนขั้ว พรรคก้าวไกลไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นรัฐบาล และต่อให้พรรคร่วมรัฐบาลมีการแย่งเก้าอี้กันอย่างไรก็ตาม แต่ไม่มีใครอยากไปเป็นฝ่ายค้าน จึงไม่ต้องแพนิคกับสถานการณ์ทางการเมือง
ส่วนดิจิทัลวอลเล็ต แม้จะมีคนติดคุกอย่างไรพรรคเพื่อไทยก็ต้องแจก เพราะไม่มีทางผิดคำพูด ติดคุกก็ดีกว่าเสียคำพูด