“สรรเพชญ”ฉะปมค่าไฟแพงขึ้นรัฐบาลท่าดีทีเหลว

19 ก.ค. 2567 | 08:33 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ค. 2567 | 08:37 น.

“สรรเพชญ บุญญามณี”ส.ส.สงขลา ฉะปมค่าไฟแพงขึ้น “รัฐบาลท่าดีทีเหลว” สงสัยเกรงใจกลุ่มนายทุนปล่อยให้เข้ามาขูดเลือดขูดเนื้อประชาชนหรือไม่

วันนี้ (19 ก.ค. 67) นายสรรเพชญ บุญญามณี ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ราคาพลังงาน โดยเฉพาะค่าไฟในครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้นว่า ปัจจุบันสถานการณ์ค่าไฟที่ประชาชนต้องแบกรับ เป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก เรื่องนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อประชาชน ทำให้ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก 

เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า เพื่อการดำรงชีวิต หรือ เพื่อการประกอบอาชีพ แม้ว่าล่าสุดรัฐบาลจะมีมาตรการตรึงค่าไฟ อยู่ที่ 4.18 บาท แต่ก็เป็นการตรึงราคาแค่ชั่วคราวเหมือนตำข้าวสารกรอกหม้อ พอจบระยะตรึงก็มาทำให้ประชาชนกังวลใหม่ว่า จะตรึงราคาต่อหรือไม่ 

เมื่อเกิดความกังวลและความไม่สบายใจกับประชาชนในลักษณะนี้ ประชาชนย่อมหวังว่า รัฐบาลจะเข้ามาดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้คลายความทุกข์ใจ แต่จากที่ตนได้ติดตามสถานการณ์ ยังไม่เห็นว่า รัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนอย่างยั่งยืนได้เลย เพราะมีแต่นโยบายที่ลดค่าไฟเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ได้แก้ที่ต้นตอ แล้วปัญหาค่าไฟแพงก็กลับมาซ้ำเติมประชาชนเหมือนเดิม 

อีกทั้ง การตรึงค่าไฟก็เป็นการสร้างภาระต้นทุนให้กับ กฟผ. ที่ต้องแบกรับภาระแทนประชาชน สุดท้ายแล้วผู้ที่ต้องร่วมกันชดใช้เงินส่วนนี้คือ ผู้ใช้ไฟฟ้า โดยไม่มีการจำแนกว่าจะรวย หรือ จน เพราะต้องจ่ายค่าไฟเท่ากัน เป็นสิ่งที่ยิ่งตอกย้ำความเหลื่อมล้ำของสังคมไทย 

“ผมยังคงรอการแก้ไขกฎหมาย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพยายามให้ข้อมูล ซึ่งก็ยังไม่เห็นความคืบหน้า ซ้ำร้ายกว่านั้นยังไม่เห็นภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้เลย” 

นายสรรเพชญ ได้ยกตัวอย่างกรณีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้เปิด 3 ทางเลือก ค่าไฟ ซึ่งทั้ง 3 ทางเลือกนี้ยังคงต้องบวกค่า Ft ที่จะทำให้ค่าไฟมีราคาสูงขึ้น และรัฐบาลยังไม่ได้ยกเลิกค่า Ft แต่อย่างใด 

นายสรรเพชญ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลไม่ได้ทำงานอย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องนี้เลย นอกจากนี้สหภาพการไฟฟ้า ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับแนวทางการปรับขึ้นค่าไฟ จึงได้มีการออกมาเรียกร้องแทนประชาชน  

อีกทั้งตนยังไม่เคยเห็นว่า รัฐบาลทำหน้าที่ในการเจรจากับกลุ่มทุน ที่เป็นเสือนอนกินค่าพลังงานของประชาชน และเกิดคำถามว่ารัฐบาลกำลังยินยอมให้บริษัทเอกชน หรือ กลุ่มทุนใหญ่เข้ามาขูดเลือดขูดเนื้อประชาชนใช่หรือไม่ 

และหากรัฐบาลไม่เร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืนจะส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ที่อาจจะย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า  

“ผมพอจะจำป้ายหาเสียงนโยบายของพรรคเพื่อไทย ได้ว่า หากได้เป็นรัฐบาล ค่าไฟจะลดทันที ซึ่งปัจจุบันรัฐบาล ก็ทำงานมาจะครบปีแล้วยังทำตามนโยบายตามที่หาเสียงไว้ไม่ได้ ซึ่งก็ไม่ทราบว่ารัฐบาลกลัวอะไร หรือเกรงใจใครอยู่ จึงไม่กล้าทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม หรือหากรัฐบาลทำไม่ได้รัฐบาล ก็ควรออกมาขอโทษกับประชาชนอย่างเป็นทางการไม่ใช่ปล่อยให้สถานการณ์บานปลาย แล้วความตระหนกก็มาตกอยู่กับประชาชน” นายสรรเพชญ ระบุ