วันนี้ (9 ส.ค. 67) ที่อาคารไทยซัมมิท ภายหลังที่ประชุม สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ร่วมประชุมกับพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล เพื่อเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น “พรรคประชาชน” และแต่งตั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ใหม่ โดยมี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายศรายุทธ ใจหลัก เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่นั้น
ภายหลังการประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ นายศรายุทธ ใจหลัก นายพริษฐ์ วัชรสินธุ และ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ได้ร่วมกันแถลงข่าว
“ณัฐพงษ์”หวังเป็นรัฐบาลพรรคเดียว
นายณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า กระบวนการทำให้พรรคประชาชนเป็นสถาบันทางการเมือง สืบทอดอุดมการณ์พรรคอนาคตใหม่ และก้าวไกล เป็นสิ่งสำคัญ
วันนี้ตนได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค จะพูดสื่อสารถึงประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่า ภารกิจของเราต่อจากนี้ จะสร้างรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งปี 2570
“สำคัญที่สุดเราจำเป็นต้องชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า เราต้องตั้งเป้าหมายให้สูงยิ่งขึ้น นอกจากการเป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งปี 2566 ต่อไปคือ การชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ นี่คือเป้าหมายสูงสุดของพวกเรา
หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า มีหลายสิ่งที่เราจะทำ สร้างพรรคใหม่ ปรับปรุงโครงสร้างพรรค หาสมาชิกพรรค ปรับปรุงนโยบายให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนมากขึ้น
“ทุกท่านทั้ง นายศรายุทธ และ น.ส.ศิริกัญญา อยู่ร่วมมาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ ตอนนี้เราพยายามจัดวางแบ่งแยกบทบาทให้ชัดเจน ผมเป็น สส.มาหลายปี จะรับบทบาทในฐานะทำงานหน้าบ้าน
สิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างพรรคให้แข็งแรง คือ การทำโครงสร้างพรรค ฐานสมาชิกให้แข็งแรง โดยนายศรายุทธ ได้รับความไว้วางใจ เพราะทำหน้าที่ตรงนี้มาตลอดตั้งแต่ร่วมเดินทางด้วยกันมา” นายณัฐพงษ์ กล่าว
ส่วนที่มาชื่อพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ ชี้แจงว่า ตั้งแต่อนาคตใหม่ ก้าวไกล จนถึงประชาชน มีประโยคหนึ่งสำคัญสุดคือ อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน คำว่าประชาชนในชื่อพรรค ไม่ใช่อยู่ในชื่อพรรคอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังระบุสโลแกนว่า โดยประชาชน เพื่อประชาชน และเดินหน้าสู่การสร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
สอดคล้องโลโก้พรรคเป็น 3 เหลี่ยมหัวกลับ มี 6 ด้าน สอดคล้องคณะราษฎร 6 ประการ รวมถึงสีประจำพรรค สืบสานอุดมการณ์ต่อไป นี่คือหลายอย่างที่สะท้อนออกไป ความเชื่อ อุดมการณ์ เราไม่เปลี่ยนแปลง เดินหน้าต่อไป
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อผู้บริหารเปลี่ยน บางอย่างการบริหารพรรคต้องเปลี่ยนไป แต่เรื่องหลักการความเชื่อ อุดมการณ์ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ที่เปลี่ยนไปทุกคนก็เห็น กรรมการบริหารเปลี่ยน แบ่งบทบาทหน้าที่ใหม่ตามที่นายศรายุทธระบุ การสร้างฐานสมาชิกพรรค การสร้างทีมเครือข่ายจังหวัดสำคัญ เพราะเราไม่ต้องการสร้างพรรคให้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง
“การมีฐานสมาชิกพรรค ยึดโยงกับพรรค ไม่ใช่ยึดโยงกับนักการเมือง ถ้าอนาคตเกิดมีงูเห่า หรือคนย้ายเปลี่ยนอุดมการณ์ คิดว่าจะทำให้พรรคไม่มั่นคงแข็งแรง การแบ่งบทบาทหน้าที่ของหัวหน้า กับเลขาธิการ สะท้อนให้เห็นชัดว่ามีแนวทางทำงานอย่างไร”
แจงเหตุใช้ชื่อพรรคประชาชน
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ขอประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเราฟื้นคืนชีพกลับมาแล้วในนาม “พรรคประชาชน” วันนี้ 143 สส.อดีตก้าวไกล ที่ไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และ สก. 11 คน รวมถึงแนวร่วม อดีตเครือข่ายพรรคก้าวไกลทั่วประเทศ ได้ประชุม ตกลงร่วมกันเพื่อเดินหน้าต่อ ขับเคลื่อนผลักดันประเทศนี้ในนามพรรคประชาชน
เหตุผลที่ใช้ชื่อนี้ เพราะต้องการเป็นพรรคการเมืองโดยประชาชน เพื่อประชาชน และเดินหน้าสู่การสร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน มีความเชื่อในระบอบประชาธิปไตย สิ่งมีคุณค่าสูงสุดคือประชาชนทุกคนในประเทศ สถาบันทางการเมืองทุกสถาบัน ควรยึดโยงประชาชน ถูกตรวจสอบได้โดยประชาชน และดำรงอยู่อย่างมั่งคง ชอบธรรม ด้วยความยินยอมพร้อมใจของประชาชนทุกคน
วันนี้ที่ประชุมพรรคประชาชน มีมติแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรค 5 คน ได้แก่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นหัวหน้าพรรค นายศรายุทธ ใจหลัก เลขาธิการพรรค น.ส.ชุติมา คชพันธุ์ เป็นเหรัญญิกพรรค นายณัฐวุฒิ บัวประทุม เป็นนายทะเบียนพรรค นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ เป็นกรรมการบริหารพรรค
ชวนสมาชิกร่วมขับเคลื่อนพรรคใหม่
ภารกิจแรก เชิญชวนประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น รวมถึงสมาชิกพรรคก้าวไกล 1 แสนกว่าคน มาร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในบทถัดไปของการเมืองไทย
ในการเข้าเว็บไซต์พรรคประชาชน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้ผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1.สมัครเป็นสมาชิกพรรค ตั้งเป้าหมายให้ยอดถึง 1 แสนคนโดยเร็วที่สุด 2.บริจาคเงินให้พรรคเพื่อขับเคลื่อนทางการเมือง โดยตั้งเป้าไว้ 10 ล้านบาท
หลังจากนั้นในวันที่ 10 ส.ค.จะจัดกิจกรรมทั่วประเทศ เปิดรับสมาชิก เปิดรับบริจาคของประชาชนที่มาเป็นส่วนหนึ่งกับพรรคประชาชน โดยใน กทม. จะมีบูธใหญ่จัดขึ้นที่สเตเดียมวัน ถ.บรรทัดทอง
เตรียมพรรคเพื่อบริหารประเทศ
ด้าน นายศรายุทธ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา เราตระหนักเรื่องนี้ดีตั้งแต่สร้างพรรคอนาคตใหม่ การที่ต้องใช้เวลา เราจำเป็นต้องมีคนจำนวนมาก เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน นั่นคือทำให้ต้องสร้างพรรคให้เป็นสถาบัน
ทั้งนี้ตั้งแต่อนาคตใหม่ถึงก้าวไกล เรามีโครงสร้างสมาชิกพรรค มีทั้งส่วนที่เป็นโครางสร้างตัวแทนสมาชิกพรรคผ่านงานเครือข่าย มีเครือข่ายพื้นที่ ชาติพันธุ์ แรงงาน ส่วนโครงสร้างสมาชิกพรรคที่เป็นตัวแทนประชาชนคือ สส.
แน่นอนแม้ว่าวันนี้ เรายังคาดหวังการเติบโตของสมาชิกพรรคในอนาคตว่า ในอนาคตอันใกล้เราจะมีโครงสร้างตัวแทนสมาชิกพรรคที่ทำงานการเมืองท้องถิ่น มีโครงสร้างสมาชิกพรรคที่จะไปเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่บริหารประเทศ
“นี่คือความสำคัญที่เรามีหลายโครงสร้างภายในพรรคที่ชื่อว่าประชาชน หน้าที่ผมคือ การบริหารจัดการทำให้ทุกภาคส่วน ทำงานประสานสอดคล้องกัน เพื่อเป้าหมายที่เราอยากสร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ แน่นอนถ้าเราทำสำเร็จ เราจะมั่นใจว่าจะมีพรรคทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในอนาคต แม้เราจะไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วก็ตาม”
“ศิริกัญญา”ไม่ประสงค์เป็นหัวหน้าพรรค
ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการคาดเดาไปต่าง ๆ นานาว่าใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค โดยมีชื่อตนด้วย แต่อย่างที่บอกว่าการเลือกหัวหน้าพรรคต้องเริ่มจากกระบวนการภายใน โดยเริ่มจากคืนวานนี้ (8 ส.ค.) เป็นการเริ่มต้นกระบวนการภายในของ สส.อดีตพรรคก้าวไกล ในกระบวนการจะต้องมีการหยั่งเสียงเพื่อหาเสียงผู้รับรองว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่
ก่อนเข้าสู่กระบวนการที่ประชุมใหญ่วิสามัญในวันนี้ เมื่อวานนี้ในการเสนอชื่อมีหัวหน้าพรรคคนเดียว ที่มีการเสนอชื่อคือ นายณัฐพงษ์ และผู้เสนอชื่อนั้นคือ ตนเอง
ดังนั้น ตนไม่มีความประสงค์แข่งขันตำแหน่งหัวหน้าพรรคตั้งแต่ต้น จึงเสนอชื่อ นายณัฐพงษ์ ด้วยความมั่นใจว่ามีคุณสมบัติพร้อมในการเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2570 เพราะเป็นคนครบเครื่อง เริ่มต้นทำงาน สส.เขต ทำงาน สส.ปาร์ตี้ลิสต์ มีบทบาททำงานเบื้องหลังพรรคในฝ่าย IT และทำระบบต่าง ๆ มีส่วนร่วมบริหารพรรคมาโดยตลอด ทำให้ตนมั่นใจ และเพื่อนสมาชิกให้เสียงสนับสนุนรับรองนายณัฐพงษ์