วันนี้ (16 ส.ค. 67) นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ให้ความเห็นภายหลังการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนและพรรคประชาธิปัตย์ มีมติงดออกเสียงกับการเลือกนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้
นายสรรเพชญ ได้ให้เหตุผลว่า การลงมติงดออกเสียงในครั้งนี้เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้า และไม่ให้เกิดสุญญกาศทางการเมือง เพราะมีการเสนอชื่อ อุ๊งอิ๊ง-นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพียงชื่อเดียว อีกทั้งเพื่อให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ได้เข้าแถลงนโยบายกับรัฐสภาและทำหน้าที่ก่อน หลังจากนั้นจึงจะดำเนินการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล
นายสรรเพชญ กล่าวว่า ตนมีความหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องต่าง ๆ ที่คั่งค้างของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ปรึกษาหารือผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะเป็นปัญหาที่ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ร้องเรียนและสะท้อนผ่านมายังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยตรง
ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการ คือ การเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ประชาชน นอกจากการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่รัฐบาลสามารถทำได้ทันที สิ่งที่เป็นโจทย์หลักและท้าทายความสามารถของรัฐบาลทุกชุด คือ ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ กำลังซื้อของประชาชนกำลังถดถอย เพราะรายได้สวนทางกับรายได้
“ปัญหาปากท้อง หนี้สินครัวเรือนอันมหาศาลของประชาชน ทั้งเรื่องราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งผงชูรส หรือราคาสินค้าทางการเกษตรที่เกษตรกรขายมีราคมตกต่ำ แต่เมื่อถึงมือของประชาชนกลับมีราคาที่สูงขึ้น ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมีความลำบากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องค่าครองชีพ”
นอกจากนี้ ปัญหาที่กำลังทดสอบความสามารถของรัฐบาล คือ การแก้ไขปัญหาที่ประชาชนไม่สามารถประกอบอาชีพเหมือนเดิมได้ เห็นได้จากการปิดตัวของร้านค้าต่าง ๆ ที่ได้ปิดตัวลงเป็นจำนวนมาก ทั้งการสู้เรื่องต้นทุนไม่ไหว
และสำคัญกว่านั้น คือ การเข้ามาของสินค้าจีน ทุนจีน ที่เข้ามาผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์ขายราคาถูก ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กในประเทศไปไม่รอดหลายราย ซ้ำยังมีปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คอลเซนเตอร์ ปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะเรื่องพลังงาน ที่เกือบ 1 ปี ที่มีรัฐบาลเพื่อไทยเป็นแกนนำไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้
ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ไม่ให้บานปลายไม่มากกว่านี้ ควบคู่กับการเร่งมาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน และการฟื้นความเชื่อมันจากต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งรัฐบาลต้องหาทางออกในเรื่องนโยบายแจกเงินดิจิทัล ที่ประชาชนได้ลงทะเบียนไปแล้วรัฐบาลจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่อย่างไร
นายสรรเพชญ กล่าวในตอนท้ายว่า ขอให้รัฐบาลทำงานอย่างตรงไปตรงมา อย่าริอาจทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย การเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง หรือ ปล่อยให้ใครมาครอบงำนายกรัฐมนตรี และตนจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านและคอยจับตาดูการทำงานของรัฐบาลต่อไป