ผู้สื่อข่าวรายงานถึงภารกิจของ อุ๊งอิ๊ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย วันนี้ (24 ส.ค. 67) ว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ได้เดินทางไปยังชุมชนบ้านภูมินทร์- ท่าลี่ จังหวัดน่าน และได้ลงเรือ พร้อมไปกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค และ สส.น่าน พรรคเพื่อไทย เพื่อเข้าไปมอบอาหารและถุงยังชีพ ให้แก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมสูง จนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต้องตัดกระแสไฟ
โดยชาวบ้านต่างยินดีที่ได้พบ นางสาวแพทองธาร ที่เดินลุยน้ำมาถึงขอบเรือน ขอบคุณที่ได้เดินทางมาเยี่ยมถึงพื้นที่ พร้อมระบุว่า ดีใจที่เห็น นางสาวแพทองธารมาด้วยตัวเอง และขอให้มาบ่อยๆ ประชาชนจะได้มีกำลังใจ
บางส่วนได้ขอถ่ายภาพเซลฟี่กับ นางสาวแพทองธาร ขณะที่ แพทองธาร ได้ทักทายสอบถามความเป็นอยู่ ส่งยิ้มและบอกกับประชาชน ว่า ขอให้ทุกคนอดทนและเป็นกำลังใจให้
นอกจากนี้ นางสาวแพทองธาร ได้ส่งยิ้มและบอกกับทุกคนโดยเฉพาะชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม และอาศัยอยู่บนบ้านเรือนว่า ขอให้ทุกคนอดทนและเป็นกำลังใจให้ พร้อมสอบถามถึงความเป็นอยู่ และสิ่งของจำเป็นที่ต้องการมากที่สุด ก่อนที่จะมอบถุงยังชีพ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน
ภายหลังลงเรือให้กำลังใจชาวบ้านชุมชนบ้านภูมินทร์ ท่าลี อ.เมืองน่าน นางสาวแพทองธาร เปิดเผยกับว่า จากที่เข้าไปดูปริมาณน้ำยังท่วมสูงอยู่ และชาวบ้านยังคงลำบากไม่มีไฟฟ้าใช้ ตนในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ได้ให้กำลังใจ และทาง สส.ของพรรคจะได้มอบอาหารและน้ำให้ แม้ชาวบ้านจะลำบาก แต่ก็ยังยิ้มแย้ม ดีใจและโบกมือให้ เหมือนกับเราได้กำลังใจจากชาวบ้านกลับมา
ส่วนที่ชาวบ้านอยากให้ลงพื้นที่บ่อยๆ นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ส่วนตัวก็อยากมา และเมื่อได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มตัวแล้ว ก็จะมาทันทีแน่นอน แต่วันนี้มาในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมกับสส.ของพรรค ช่วยกันดูเรื่องความเป็นอยู่ อาหารการกิน
“จากที่ได้ดูสภาพความเป็นอยู่ของชาว ก็น่าสงสาร แต่ชาวบ้านไม่ได้มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ แต่ก็มีชาวบ้านบางท่านถึงกับร้องไห้เลย ดีใจที่ได้เจอ ก็ได้แต่ช่วยเป็นกำลังใจให้กัน และเมื่อสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นทางการ ก็จะเร่งช่วยเหลือ รวมทั้งมีมาตรการต่างๆ ออกมาอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงในภาคเหนือ รวมทั้งภาคใต้ ที่จังหวัดภูเก็ต ก็ยังมีปัญหา” นางสาวแพทองธาร กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือในช่วงที่กล่าวถึงชาวบ้านยังเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนว่าชาวแพร่จะรู้สึกเสียใจที่วันนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ลงพื้นที่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของสนามบิน และเรื่องของสภาพอากาศ ความจริงอยากไปมาก จึงให้สส.ในพื้นที่เข้าไปดูแล ซึ่งก่อนที่จะเดินทางก็เช็คแล้ว แต่ไม่คิดว่าสภาพอากาศจะเปลี่ยน
เมื่อถามว่ากังวลสถานการณ์น้ำหรือไม่ที่อาจจะมากกว่าปีอื่น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ในหลายพื้นที่ขณะนี้ก็เริ่มดีขึ้น ระดับน้ำเริ่มลดลง
“อย่างที่จังหวัดน่านเจ้าหน้าที่ก็ได้รายงาน ว่าสถานการณ์น้ำเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่แน่นอนว่ากำลังใจยังเป็นสิ่งสำคัญ ให้กำลังใจตอนไหนก็ยังไม่สาย แต่ยอมรับว่าพื้นที่ภาคกลางตอนนี้ จะมีการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำไว้พอสม จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดจาก สส.อีกครั้ง”
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. นางสาวแพทองธาร พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เดินทางมาที่วัดภูมินทร์ อำเภอเมืองเมืองน่าน เพื่อติดตามความเสียหายของวัดจากเหตุน้ำท่วม ซึ่งวันนี้น้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยพระครูศิรินันทวิทย์ เจ้าคณะอำเภอเมืองน่าน ผู้รักษาการแทนเจ้าวาดวัดภูมินทร์ รอต้อนรับ
โดยก่อนที่จะเข้าไปภายในอุโบสถ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน ได้อธิบายถึงความสำคัญของวัดภูมินทร์ โดยระบุว่าหากลอดซุ้มพญานาค วัดภูมินทร์จะได้กลับมาอีก นายแพทย์ชลน่านอยากได้ถามกับนายอนุทินว่า จะมาลอดซุ้มพญานาคด้วยหรือไม่ ก่อนที่นายอนุทินจะพูดติดตลกว่ามาขอร่วมครม.ด้วย ทำให้นางสาวแพทองธารถึงกับบอกว่า คนนี้เขา(อนุทิน)มุขเยอะ
จากนั้นเจ้าคณะอำเภอได้นำคณะเข้าไปกราบพระประธานภายในอุโบสถ ก่อนที่เจ้าคณะจะกล่าวกับนางสาวแพทองธารว่า ขอแสดงความชื่นชมยินดีและให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี แม้ตอนนี้จะยังไม่เต็ม 100 แต่ถ้านายกฯก็ห่วงประชาชนเดินทางมาถึงที่นั่น หลวงพ่อก็ขออาราธนาสาธุด้วย และขอให้ให้กำลังใจท่านนายกฯ
จากนั้นเจ้าคณะอำเภอได้มอบองค์พระประธานจำลองให้กับนางสาวแพทองธาร และขอให้มีความหนักแน่น มั่นคง และมีสติในการดำรงชีวิต
เจ้าคณะยังอำเภอกล่าวได้ว่า วัดภูมินทร์สร้างมา 428 ปี มีความเก่าแก่ เมื่อวานนี้น้ำเต็มพื้นที่ เสียหายเล็กน้อย ก็ตามเมื่อพูดถึงจุดนี้ เจ้าคณะได้พูดกับนางสาวแพทองธารพร้อมหันไปทางนายแพทย์ชลน่านว่า “ยังไงก็ฝากท่านรองนายกฯด้วยนะ” ทำให้นพ.ชลน่าน ถึงกับก้มลงกราบ ขณะที่นางสาวแพทองธาร ได้แต่ยิ้ม
จากนั้น นางสาวแพทองธาร พร้อมคณะได้เดินดูรอบพระอุโบสถ และให้ความสนใจภาพกระซิบรักบรรลือโลก
ก่อนที่ นพ.ชลน่าน จะเชิญไปดูภาพผาผนังที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม และอธิบายว่า หากเป็นผู้พิพากษาแล้วตัดสินผิด เมื่อตายไปจะตกนรก แล้วต้องนั่งทับอัณฑะตัวเองที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากความไม่เป็นธรรมในการตัดสินคดีความ
พร้อมกล่าวแซว นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ห้ามถ่ายรูปนี้ไปประกอบการอภิปรายญัตติตรวจสอบจริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ