ภูมิธรรม ทุบโต๊ะ ครม.แพทองธาร เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว

วันที่ 27 สิงหาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.)

นายภูมิธรรมกล่ววว่า เราได้ดำเนินการไปตามที่ตกลงกันกับพรรคการเมืองที่ให้การสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยให้ตัวแทนของตัวเองที่จะจัดตั้งครม.ไปยื่นที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกา

นายภูมิธรรมกล่าวว่า แต่ตนก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้มายื่นรายชื่อที่ตน ซึ่งตนได้ให้เผื่อรายชื่อไว้สำรอง เพราะกระบวนการตรวจสอบประวัติใช้เวลามาก เร็วสุด 1 สัปดาห์ ไม่เกิน 2 สัปดาห์พยายามทำให้จบเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว

นายภูมิธรรมกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็ส่งรายชื่อไปมากกว่าโควตารัฐมนตรีที่ได้รับ สุดท้ายขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี 

เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้าการจัดตั้งครม.จะเสร็จหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า พูดไม่ได้ ต้องถาม สลค.และเลขาธิการกฤษฎีกา 

เมื่อถามว่ามีการยกข้อกฎหมายในเรื่องการเสนอชื่อผู้จะมาเป็นรัฐมนตรีของพรรคการเมืองกับการจัดตั้งครม. นายภูมิธรรมกล่าวว่า 

“การจัดตั้งครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว นายกรัฐมนตรีต้องเลือกทีมครม.มาร่วมงานที่เหมาะสม ท่านต้องรับผิดชอบในฐานะนายกฯ ท่านจึงมีสิทธิที่จะเสนอและจะเลือกใครก็ได้ที่คิดว่าเหมาะสม”

นายภูมิธรรมกล่าวว่า อย่างไรก็ตามการยกมือสนับสนุนน.ส.แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้หมายความว่า จะต้องมีตัวแทนในครม. 

ด้านนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองได้ส่งรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครบทุกพรรคแล้ว และได้ยื่นให้กับสลค.เพื่อตรวจสอบประวัติ โดยการส่งรายชื่อไปยังศาลยุติธรรม ป.ป.ช. และ ก.ล.ต.ตรวจสอบในทุกมิติ 

“การจัดตั้งครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีและสุดท้ายจะเป็นพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ที่ผ่านมาหลายครั้งมีข่าวการคาดการณ์ต่าง ๆ ซึ่งไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริง เพราเราไม่ได้เปิดเผยชื่อใดๆ”

เมื่อถามว่าคาดว่าจะนำรายชื่อครม.โปรดเกล้าฯได้วันไหน นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า “เมื่อพร้อม” 

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนคิดว่า ภายในวันศุกร์นี้ (29 ส.ค.67) จะรู้หมดแล้วว่า พรรคใดจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ พรรคเพื่อไทยคงแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน 

นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกากล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีให้มาตรวจสอบประวัติในประเด็นข้อกฎหมาย ซึ่ง สลค.ยังไม่ได้ส่งมา