KEY
POINTS
เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่า ใน “รัฐบาลเพื่อไทย” ภายใต้การนำของ “อิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ซึ่งอยู่ระหว่างจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะไม่มีคนจากตระกูล “วงษ์สุวรรณ” ร่วมอยู่ใน “ครม.แพทองธาร”
ความชัดเจนดังกล่าว เริ่มขึ้นจากกรณี นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปฎิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้ลงนามในหนังสือลงวันที่ 26 ส.ค. 2567 ถึงนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เรื่อง ขอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เนื้อหาหนังสือระบุตอนหนึ่งว่า
“พัชรวาท”ตกขบวนรัฐมนตรี
ด้วยพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. เมื่อวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. 2567 กก.บห. ได้พิจารณาเรื่องเสนอชื่อบุคคลให้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ
โดยที่ประชุมได้พิจารณาการที่พรรคพลังประชารัฐได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยแถลงข่าวร่วมกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอื่นๆ ไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2567 และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ 16 ส.ค. 2567 สส.ของพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงมติเห็นชอบให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2567 หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้เสนอรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคไปให้นายกรัฐมนตรี ผ่าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ จำนวน 4 ท่าน ดังนี้
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข และ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ ในวันประชุมสภาผู้แทนราษฏร พรรคพลังประชารัฐ ให้ สส.ของพรรคทุกคน ออกเสียงด้วยการขานชื่อลงมติเห็นชอบให้ นางสาวแพทองธาร ดำรงตำแหน่งนายกฯ จำนวน 39 เสียง เว้นแต่หัวหน้าพรรคฯ เท่านั้น ที่ติดภาระกิจสำคัญ อันไม่อาจหลีกเลี่ยง จึงไม่สามารถมาร่วมออกเสียงได้
และต่อมาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มีหนังสือนำส่งให้นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.2567 เพื่อนายกฯ จะได้ดำเนินแต่งตั้งรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป
แต่ปรากฏว่า เมื่อพรรคพลังประชารัฐสอบถามไปยัง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นบุคคลที่พรรคเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จึงทราบว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไม่ได้ติดต่อ เพื่อส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้
ในฐานะที่ท่านมีอำนาจในการสั่งการสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้โปรดมีบัญชาให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพื่อที่พรรคพลังประชารัฐจะได้ดำเนินการให้มีการกรอกข้อมูลในแบบฯ และนำส่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป
ตั้งครม.ขึ้นอยู่กับนายกฯ
ด้าน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ จริงๆ แล้วในคณะรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใดๆ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นขอให้รอสักหน่อย
เมื่อถามาหากรายชื่อสะเด็ดน้ำขั้นตอนต่อไป นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ยอมรับว่า “ใช่ค่ะ” และการตรวจสอบคุณสมบัติมีหลายขั้นตอน เห็นว่ามีหลายพรรคยังติดขัด เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อน
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เรื่องของตำแหน่งทุกคนก็หวังว่าจะเป็นตัวเลือกปัจจุบันที่ต้องดีที่สุดต่อประเทศชาติ และคิดว่าหลายคนที่มีประสบการณ์แล้วและคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ก็ต้องแบ่งกัน เพราะในการทำงานต้องเล็งถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ลงตัว
โยนพปชร.เคลียร์กันให้จบ
เมื่อถามว่ามีกระแสว่ามีรายชื่อของนายอัครา พรหมเผ่า ซึ่งเป็นน้องชายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีรายชื่อในครม.สัดส่วนของพรรคเพื่อไทย นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ในเรื่องของตัวบุคคล ซึ่งพรรค พปชร.เองก็มีปัญหาภายในที่จะต้องแก้ไขด้วย จึงอยากให้รออีกนิดก็แล้วกัน
“ตอนแรกคิดว่านิ่งแล้ว แต่กลับมีเหตุการณ์ จึงอยากให้รอบทสรุปสุดท้ายทีเดียว”
เมื่อถามถึงการที่มีพรรคการเมืองเข้ามาร่วมรัฐบาลแล้วมีปัญหาเกิดขึ้นภายในพรรค แล้วเข้าร่วมรัฐบาลไม่เต็มพรรค จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในวันข้างหน้าแล้วจะมีการพิจารณาอย่างไร นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ต้องให้แต่ละพรรคจัดการปัญหาเอง
พร้อมกับยกตัวอย่าง หากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยก็จะต้องไปจัดการกับปัญหาเอง เพื่อสร้างความมั่นคงต่อไปให้ได้เป็นรัฐบาลที่มั่นคงให้ได้ ขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขา
ตั้งครม.อำนาจนายกฯผู้เดียว
เช่นเดียวกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ที่กล่าวยืนยันว่า “การจัดตั้งครม.เป็นอำนาจของนายกฯ แต่เพียงผู้เดียว นายกฯ ต้องเลือกทีมครม.มาร่วมงานที่เหมาะสม ท่านต้องรับผิดชอบในฐานะนายกฯ ท่านจึงมีสิทธิที่จะเสนอและจะเลือกใครก็ได้ที่คิดว่าเหมาะสม”
นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การยกมือสนับสนุนนางสาวแพทองธาร เป็นนายกฯ ไม่ได้หมายความว่า จะต้องมีตัวแทนใน ครม.
ขณะที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองได้ส่งรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครบทุกพรรคแล้ว และได้ยื่นให้กับสำนักเลขาฯ ครม. เพื่อตรวจสอบประวัติ โดยการส่งรายชื่อไปยังศาลยุติธรรม ป.ป.ช. และ ก.ล.ต.ตรวจสอบในทุกมิติ
“การจัดตั้งครม.เป็นอำนาจของนายกฯ และสุดท้ายจะเป็นพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ที่ผ่านมาหลายครั้งมีข่าวการคาดการณ์ต่าง ๆ ซึ่งไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริง เพราเราไม่ได้เปิดเผยชื่อใดๆ”
เส้นทางการเมือง“บิ๊กป้อม”
สำหรับเส้นทางการเมืองของ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น
พล.อ.ประวิตร เกิดเมื่อ 11 ส.ค. 2488 ปัจจุบันอายุ 79 ปี
สำเร็จการศึกษา โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 17 (จปร.17) เป็นนายทหารที่เติบโตมาจากกองทัพภาคที่ 1 ภาคตะวันออกมาโดยตลอด จนกระทั้งได้ขึ้นเป็น ผู้บัญชาการทหารบก ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2547 – 30 ก.ย. 2548
11 ต.ค. 2549 - 22 ธ.ค. 2550 ได้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ , ปี 2551 เข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ในรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
20 ธ.ค. 2551- 9 ส.ค. 2554 ปี 2551 เป็น รมว.กลาโหม ในรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
30 ส.ค. 2557- 10 ก.ค. 2562 หลังจากการรัฐประหาร ได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา , 24
ส.ค. 2565 – 30 ก.ย. 2565 รักษาการนายกรัฐมนตรี
วันที่ 27 มิ.ย. 2563 ได้รับเลือกให้เป็นหัวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) การเลือกตั้ง สส. เมื่อเดือน พ.ค. 2566 พล.อ.ประวิตร ได้เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อคนเดียวของพรรค
เส้นทางการเมือง“พัชรวาท”
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ มีชื่อเล่นว่า “ป๊อด” เกิดเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2492 ปัจจุบันอายุ 75 ปี เป็นน้องชายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
พล.ต.อ.พัชรวาท สำเร็จการศักษา ปริญญาตรี โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต ม.เกษตรศาสตร์
ระหว่าง 8 เม.ย. 2551-30 ก.ย. 2552 เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , 13 ต.ค. 2549 ได้รับแต่งตั้งเป็น สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ปี 2566 พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แต่งตั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค
1 ก.ย. 2566 พล.ต.อ.พัชรวาท ได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน
มาถึงยุครัฐบาลเพื่อไทย ที่มี แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ คนในตระกูล “วงษ์สุวรรณ” คงหมดโอกาสแล้วที่จะได้มีตำแหน่งรัฐมนตรี ใน “ครม.แพทองธาร”
เพราะล่าสุดคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ได้มีมติที่จะไม่เชิญพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมรัฐบาล แต่จะส่งเทียบเชิญ กลุ่มร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมแทน...
++++++
“ทักษิณ”เล่าฉากหลังแตกหัก‘บิ๊กป้อม’
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์แบบ Exclusive กับ 2 บก.เครือเนชั่นกรุ๊ป ในโอกาสจัดงาน “Vision For Thailand” เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2567 ถึงเรื่องความบาดหมางกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก่อนหน้านี้ได้คุยกันแล้วหรือไม่ว่า
“ก่อนหน้านี้เคยคุยกันเรื่องร่วมรัฐบาลกัน คุยกันเฉยๆ ว่า เป็นอย่างไร สารทุกข์สุขดิบ แต่หลังจากนั้นไม่ได้คุย ไม่ได้เจอเลย เขาไม่รู้จักผมแล้ว ผมตั้งเขาเป็นตั้งแต่แม่ทัพภาคที่ 1 ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และเป็น ผบ.ทบ.
โดยจุดเริ่มต้นของความบาดหมางมาจากสมัยก่อน เขาเคยสมัครเป็นประธานกรรมการ ป.ป.ช. แต่ผมคัดค้าน เพราะเขาเป็นทหาร จะรู้กฎหมายหรือไม่ ทำให้ นายสุชน ชาลีเครือ ที่เรียนหลักสูตร วปอ.กับ พล.อ.ประวิตร ไปบอกเขา ทำให้เขาโกรธตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา”
ส่วนวันนี้อยากบอกอะไร พล.อ.ประวิตร นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า “เราก็อายุมากกันแล้ว ฟังธรรมะสักหน่อย ใจเย็น จิตใจจะได้สงบ อยู่เมืองนอก 10 กว่าปี คดีถูกยัดให้ผม ทีแรกก็โกรธ ตอนหลังมาเฉยๆ ขำเลย มาอีกหนึ่งคดีแล้ว”