รัฐสภาวางกรอบ 2 วัน 29 ชั่วโมงอภิปรายนโยบายรัฐบาล

09 ก.ย. 2567 | 06:35 น.
อัพเดตล่าสุด :09 ก.ย. 2567 | 06:40 น.

วิป 3 ฝ่าย “รัฐบาล-ฝ่ายค้าน-วุฒิสภา” วางกรอบ 29 ชั่วโมง อภิปรายนโยบายรัฐบาล 2 วัน 12-13 ก.ย.นี้ ฝ่ายค้านได้ 13 ชั่วโมง พรรคร่วมรัฐบาล 4 ชั่วโมง 30 นาที และ วุฒิสภา 4 ชั่วโมง 30 นาที ให้เวลา ครม.แจง 6 ชั่วโมง

วันนี้(9 ก.ย. 67) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการประสานงาน 3 ฝ่าย คือ สส.รัฐบาล สส.ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา เพื่อพิจารณากรอบการจัดสรรเวลาการประชุมรัฐสภา เพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันที่ 12 - 13 ก.ย. โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม และมีตัวแทนจากฝ่ายต่างๆ เข้าร่วมประชุม อาทิ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานวิปรัฐบาล นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

ภายหลังการประชุม นายวันมูหะมัดนอร์ แถลงผลประชุมว่า ที่ประชุมเห็นชอบการจัดสรรเวลารวม 29 ชั่วโมง แบ่งเป็น เวลาของคณะรัฐมนตรี รวมถึงนายกฯ ชี้แจง รวม 6  ชั่วโมง ฝ่ายค้าน 13 ชั่วโมง พรรคร่วมรัฐบาล 4 ชั่วโมง 30 นาที และวุฒิสภา 4 ชั่วโมง 30 นาที และเวลาของประธานการประชุม 1 ชั่วโมง โดยจะเริ่มประชุมเวลา 09.00 ถึงเที่ยงคืนของทั้งวันที่ 12 - 13 ก.ย.

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เวลาที่ได้จัดสรรพอบริหารจัดการได้ ทั้งนี้ในสัดส่วนของเวลานั้นมีพรรคเล็กประสานเบื้องต้นในการขอเวลาอภิปรายแล้ว  ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานขอเวลา ดังนั้น อาจจะเว้นในประเด็นดังกล่าว ส่วนพรรคไทยสร้างไทยนั้น ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ

เมื่อถามว่าในการชี้แจงของรัฐบาลอยากเห็นในทิศทางใด นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เวลาของ ครม. ได้รับเวลาเพิ่มขึ้นโดยเป็นความตั้งใจของทุกฝ่ายที่ให้ครม. ชี้แจงเต็มที่ ทั้งนี้ในประเด็นการตั้งข้อสังเกตและคำถามของฝ่ายค้าน อยากเห็นการตอบคำถามที่ตรงคำถามและตรงประเด็นจากรัฐมนตรี ไม่ใช่การตอบประเด็นที่ข้าราชการเตรียม หรือเปิดคลิปวีดีโอที่ไม่เป็นประโยชน์เวลาของรัฐสภา

เมื่อถามว่าติดใจในถึงคำแถลงนโยบายรัฐบาลที่ไม่ได้เขียนเอง  นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในรายละเอียดไม่มีประเด็นที่เปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างมีนัยสำคัญ เพราะไม่มีการพลิกขั้ว 

ทั้งนี้มีข้อแตกต่างที่ต้องตั้งข้อสังเกต เช่น ประเด็นที่ควรเร่งด่วนแต่ไม่ได้บรรจุให้เป็นวาระเร่งด่วน หรือ เรื่องที่เคยมีแต่หายไป เป็นต้น ส่วนการทำนโยบายของรัฐบาลที่ไม่มีความชัดเจนนั้น ตนเข้าใจว่า การทำคำแถลงไม่สามารถใส่รายละเอียดที่ลงลึกได้

ดังนั้น เวทีแถลงนโยบายสำคัญ ที่สส.จะซักถามในรายละเอียด และรัฐมนตรีต้องตอบให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าจะเดินหน้าเดินหน้าอย่างไร

เมื่อถามถึงรายละเอียดของการปรับเปลี่ยนรายละเอียดของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เชื่อว่าต้องมีคนสอบถามในรายละเอียดที่กลับไปกลับมา และหากแถลงแล้วจะเปลี่ยนอีกหรือไม่ต้องซักถามในรัฐสภา 

ส่วนงบประมาณที่ขอไปแล้วและรายละเอียดที่ดำเนินการนั้น อาจเป็นไปได้ว่าอาจไม่สอดคล้องกัน เพราะมีบางรายละเอียดที่สุ่มเสี่ยงขัดต่อกฎหมายและเงื่อนไขที่ถูกตั้งมานั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ดังนั้นต้องทวงถามว่านิ่งหรือไม่ หรือจะเปลี่ยนอะไรอีก