นับถอยหลัง“บิ๊กต่อ” ถึงเวลา“บิ๊กต่าย” ผงาดคุมทัพสีกากี

11 ก.ย. 2567 | 08:45 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ย. 2567 | 08:08 น.

นับถอยหลัง“บิ๊กต่อ” ถึงเวลา“บิ๊กต่าย” ผงาดคุมทัพสีกากี : รายงานพิเศษ โดยฐานเศรษฐกิจออนไลน์ วันที่ 11 กันยายน 2567

KEY

POINTS

  • นับจากนี้ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2567 เหลือเวลาอีกเพียง 19 วัน ที่ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล จะอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ตร. คนที่ 14 ก่อนเกษียณอายุราชการ
  • ในจำนวนตำรวจ 3 คนที่อยู่ในไลน์ชิงเก้าอี้ผบ.ตร.ได้ขณะนี้ “บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์" รอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 มีโอกาสสูงกว่าใครเพื่อนที่จะได้ขึ้นนั่ง ผบ.ตร.คนที่ 15 
  • “บิ๊กต่าย” เป็น นรต.รุ่น 41 จะเกษียณอายุราชการในปี 2569 หากได้คุมทัพสีกากี ในเดือนตุลาคม 2567 นี้ จะมีเวลาแสดงฝีมือในฐานะผู้บริหาร เป็นเวลา 2 ปี

นับจากวันที่ 11 ก.ย. 2567 ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2567 เหลือเวลาอีกเพียง 19 วัน ที่ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 14 จะได้ทำหน้าที่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ก่อนเกษียณอายุราชการ

เมื่อ “บิ๊กต่อ” เกษียณไปแล้ว คนที่มีโอกาสสูงสุดที่จะได้ “รับไม้ต่อ” ขึ้นมาคุม “ทัพสีกากี” ก็คือ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) อาวุโสอันดับ 2 

หลังจากที่ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1 ต้องพ้นจากตำแหน่ง รองผบ.ตร.ไป เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าว เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา 

ขณะนี้ “บิ๊กโจ๊ก” อยู่ระหว่างยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน และทางคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. ได้มีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2567 ยืนยันคำสั่งดังกล่าว ซึ่ง “บิ๊กโจ๊ก” สามารถยื่นฟ้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของศาล หรือยื่นฟ้องโดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายในระยะเวลา 90 วันนับแต่วันที่ทราบหรือถือว่าทราบคำวินิจฉัย

ดังนั้น ตำแหน่ง “ผบ.ตร.คนที่ 15” ที่จะมาแทน “บิ๊กต่อ” คนที่อยู่ในไลน์ชิง ผบ.ตร.คนใหม่มีเหลือเพียง 3 คน ประกอบด้วย   

1.บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 2 เมื่อไม่มี “บิ๊กโจ๊ก”แล้ว จึงถือเป็นรอง ผบ.ตร.ที่มีอาวุโส อันดับ 1 

2.พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ นรต.รุ่น 39 เกษียณอายุราชการในปี 2568 ถือเป็นคนที่มีอาวุโส อันดับ 2 

และ 3.คนสุดท้ายคือ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. นรต.42 สายตรง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. จะเกษียณอายุราชการในปี 2569 ถือเป็นอาวุโส อันดับ 3 

                        พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์

ในจำนวนนี้ “บิ๊กต่าย” ถือเป็นคนที่มาแรงกว่าใครเพื่อนที่จะคว้าเก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 15 ไปครอง 

เว้นเสียแต่ว่าจะไม่มีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนที่ 15 แต่ให้ รองผบ.ตร.ที่มีอาวุโสสูงสุดขึ้นมาทำหน้าที่ รักษาการ ผบ.ตร.ไปพลาง

สำหรับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ชื่อเล่นว่า “ต่าย” เกิดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2508 ปัจจุบันอายุ 58 ปี เกิดที่ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี 

-จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.ราชบุรี

-โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 25 

-โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 41 (นรต.รุ่น 41)

การรับราชการ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เริ่มต้นรับราชการหลังจากเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ในตำแหน่ง รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองระยอง 

ก่อนจะเติบโตขึ้นตามลำดับ จนได้ดำรงตำแหน่ง รองผบ.ตร.
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ หรือ “บิ๊กต่าย” เป็น นรต.รุ่น 41 คนสนิท “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผบ.ตร.คนที่ 12 จะเกษียณอายุราชการในปี 2569 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ถือเป็นนายตำรวจอีกคนหนึ่ง ที่มีความโดดเด่นการทำงานด้านบริหารมาตลอด โดยไม่มีแผลใดๆ

ในยุค พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ทาง “บิ๊กต่าย” ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปราม     

มารอดูกัน นอกจากเคยได้รับการแต่งตั้งให้ รักษาการ ผบ.ตร. ในช่วงหนึ่งแล้ว “บิ๊กต่าย” จะได้ขึ้นเป็น “ผบ.ตร.คนที่ 15” หรือ “พิทักษ์ 1” คุมทัพสีกากีตัวจริงหรือไม่?                    

หากได้รับโอกาสดังกล่าวในเดือนตุลาคม 2567 นี้ จะมีเวลาแสดงฝีมือในฐานะผู้บริหารสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเวลา 2 ปี...