อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ประกาศแต่งตั้ง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ซึ่งเป็นบทบาทที่ไม่เป็นทางการ โดยการแต่งตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนที่มาเลเซียจะเข้ารับตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2568 ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์และข้อสงสัยถึงความเหมาะสม
อันวาร์เปิดเผยการแต่งตั้งดังกล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ที่เดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าบทบาทของนายทักษิณจะมุ่งเน้นการให้คำแนะนำเชิงยุทธศาสตร์จากประสบการณ์ในฐานะอดีตผู้นำประเทศที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคอาเซียน
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแสดงความเชื่อมั่นว่าประสบการณ์ของทักษิณ โดยเฉพาะในด้านการค้า การลงทุน และการทูต จะเป็นประโยชน์ต่อบทบาทประธานอาเซียนของมาเลเซีย ทั้งนี้ ทักษิณจะทำงานร่วมกับทีมที่ปรึกษาจากหลายประเทศในอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือภายในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งดังกล่าวได้กระตุ้นให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในมาเลเซีย โดยพรรคฝ่ายค้านตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการแต่งตั้งบุคคลที่เคยถูกตัดสินจำคุกในข้อหาคอร์รัปชันและใช้อำนาจโดยมิชอบ มาเป็นที่ปรึกษาในบทบาทสำคัญดังกล่าว
นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า การแต่งตั้งทักษิณ ชินวัตรอาจเป็นการใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ระดับนานาชาติของเขา ซึ่งรวมถึงการเชื่อมโยงกับสหรัฐฯ และจีน เพื่อสนับสนุนบทบาทของอาเซียนในประเด็นที่มีความซับซ้อน เช่น ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ และวิกฤติการเมืองในเมียนมา
ในทางกลับกัน กลุ่มนักวิจารณ์ชี้ว่า การใช้บุคคลที่มีประวัติถกเถียงอาจสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมต่ออาเซียน ขณะที่ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่เลือกนักการทูตหรือนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญมาแทน
อันวาร์ อิบราฮิมได้กล่าวย้ำถึงเป้าหมายของมาเลเซียที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาค โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ การค้า และการแก้ปัญหาร่วมกัน เช่น การค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งตนมองว่าประสบการณ์ของทักษิณในฐานะรัฐบุรุษสามารถเป็นประโยชน์
ทั้งนี้ การแต่งตั้งทักษิณ ชินวัตรยังเชื่อมโยงกับเป้าหมายของมาเลเซียในการแก้ไขปัญหาวิกฤติในเมียนมา โดยทักษิณเคยแสดงความพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพระหว่างกลุ่มต่างๆ ในเมียนมา ซึ่งเป็นปัญหาที่อาเซียนพยายามผลักดันให้เกิดการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
ถึงแม้การแต่งตั้งนี้จะมีเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์และสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทยและมาเลเซีย แต่เสียงวิจารณ์ยังคงกดดันรัฐบาลมาเลเซียให้แสดงความชัดเจนถึงความคุ้มค่าของการตัดสินใจดังกล่าว ขณะที่มาเลเซียเตรียมเข้ารับตำแหน่งประธานอาเซียนในปีหน้า ด้วยคำขวัญ "ไม่แบ่งแยกและยั่งยืน" ท่ามกลางความท้าทายที่ซับซ้อน การใช้บุคลากรที่มีประสบการณ์อย่างทักษิณอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ แต่ก็ไม่อาจมองข้ามประเด็นทางจริยธรรมและความโปร่งใสที่ประชาคมอาเซียนคาดหวังจากผู้นำในภูมิภาค