ที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 17 มีนาคม 2568 ได้มีมติเสียงข้างมาก 304 เสียงเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่มีสมาชิกรัฐสภาไม่เห็นด้วย 150 เสียง และงดออกเสียง 124 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง
การประชุมในวันนี้มีการอภิปรายที่มีความร้อนแรง โดย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งทำหน้าที่อภิปรายปิดในช่วงท้ายของการพิจารณาญัตตินี้ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยย้ำว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องใช้ทั้งปัญญาและสติ ไม่เพียงแค่ความกล้าหาญ การตัดสินใจในเรื่องนี้ควรคิดให้รอบคอบและไม่ควรประมาท
"การแก้รัฐธรรมนูญต้องฉลาด มีกลยุทธ์ และต้องมีสติในการตัดสินใจ การเลือกมิตร หรือ ศัตรูในสถานการณ์นี้สำคัญมาก ถ้าไม่ระมัดระวังอาจกลายเป็นมวยหลงมุม ไก่หลงตีตัวเองจนแพ้หมด"
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความสำคัญของการใช้สติในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และต้องมีการวางแผนเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในอนาคต
ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคประชาชน ได้แสดงความคิดเห็นในทำนองที่ต่างออกไป โดยยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ มองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเดินหน้าต่อไป และพรรคประชาชนพร้อมที่จะช่วยกันผลักดันการแก้ไขนี้
ในท้ายที่สุด การลงมติในที่ประชุม พบว่า มติของรัฐสภา 304 เสียงเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และ 150 เสียงไม่เห็นด้วย ขณะที่มี 124 เสียงงดออกเสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง