KEY
POINTS
วันจันทร์ที่ 24 มี.ค. 2568 นี้ จะเป็นวันแรกที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นการอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ (ซักฟอก) อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ของไทย
ก่อนหน้านี้ วิป 3 ฝ่ายคือ ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และ ตัวแทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ตกกรอบเวลากันไว้ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะได้เวลาอภิปราย 28 ชั่วโมง คณะรัฐมนตรี และ สส.พรรคร่วมรัฐบาล ได้รับ 7 ชั่วโมง และเวลาของประธานในที่ประชุม ประมาณ 2 ชั่วโมง โดยจะเริ่มการอภิปรายในวันที่ 24 มี.ค. เวลา 08.00 น. อภิปรายวันที่ 25 มี.ค. และไปโหวต เวลา 10.00 น. ของวันพุธที่ 26 มี.ค. 2568
อย่างไรก็ตาม หากมีการประท้วงจนทำให้ฝ่ายค้านใช้เวลาไม่หมด หรือ อภิปรายได้ไม่ครบ ต้องให้สิทธิฝ่ายค้านอภิปรายได้ แม้จะเกินเวลาของแต่ละวัน จากเดิมที่กำหนดให้การอภิปรายแต่ละวันไม่เกินเที่ยงคืน แต่หากอภิปรายได้ไม่ครบต้องให้เวลาเกินไป ซึ่งอาจทำให้ต้องเลื่อนการลงมติ จากเดิมที่กำหนด ในวันที่ 26 มี.ค. ไปเป็นวันที่ 27 มี.ค.
เบื้องต้นเวลาที่อภิปราย กำหนดให้วันละ 11 ชั่วโมง โดยวันที่ 24 มี.ค. จะเริ่มอภิปราย 08.00 น. และจบก่อนเที่ยงคืน จากนั้นวันที่ 25 มี.ค.เริ่มประชุม 08.00 น. และอภิปรายถึง 23.30 น. และ ในวันที่ 26 มี.ค. เวลา 10.00 น. จะเป็นการลงมติ แต่หากเวลาฝ่ายค้านไม่หมด ประธานรับปากว่าจะให้ใช้เวลาฝ่ายค้านให้หมด
“ณัฐพงษ์”เปิดหัวซักฟอกนายกฯ
การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเริ่มต้นโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ
หลังจากนั้น อาจจะเป็นหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่ง บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถูกวางตัวไว้ให้ลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ในลำดับแรกของพรรคพลังประชารัฐ ก่อนที่สมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะได้ลุกขึ้นอภิปรายลงรายละเอียดในแต่ละประเด็น
ข้อกล่าวหานายกฯอิ๊งค์
ทั้งนี้ในญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นระบุว่า นอกจาก นางสาวแพทองธาร ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม โกหกหลอกลวงไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย บริหารบ้านเมืองผิดพลาด
ล้มเหลวอย่างร้ายแรงในด้านการเมือง การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม ทำลายนิติรัฐ ทำลายระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา
นอกจากนี้ ยังสมัครใจยินยอมให้ “คนในครอบครัว”ชี้นำชักใยให้กระทำการ หรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด ที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ
ประเด็นซักฟออออออกนายกฯ
คาดหมายกันว่า ประเด็นที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะใช้อภิปรายนายกฯ อาทิ
“พลังประชารัฐ”ซักฟอก4ประเด็น
ด้านพรรคพลังประชารัฐ(พปชร) ของ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร ได้เตรียมอภิปรายรัฐบาลใน 4 เรื่องหลัก ประกอบด้วย
1.เรื่องที่ดินอัลไพน์
2.เรื่องการพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
3.เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในประเด็นกาสิโน
4.เรื่องเอ็มโอยู 2544 ไทย-กัมพูชา
ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เชื่อได้ว่าผลการโหวต จะทำให้ “นายกฯ แพทองธาร” ผ่านการไม่ไว้วางใจไปได้แน่นอน เพราะพรรคร่วมรัฐบาล ต่างออกมาส่งสัญญาณแล้วว่า จะให้การสนับสนุน
ดังนั้น สิ่งที่ “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” จะได้จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือ การ “ดิสเครดิต” รัฐบาล ดิสเครดิตนายกฯ ดิสเครดิตครอบครัวชินวัตร ดิสเครดิตพรรคเพื่อไทย เพื่อเก็บแต้มคะแนนเสียงทางการเมือง ไว้สู้ศึกเลือกตั้งในครั้งต่อไป