วันนี้ (3 มี.ค.66) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 86 (1) ซึ่งกำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร์ที่ประกาศในปีสุดท้าย ก่อนปีที่มีการเลือกตั้งนั้น คำว่า "ราษฎร" ไม่หมายรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย
โดยให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลตั้งแต่วันนี้ (3 มี.ค.66) เป็นต้นไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่งและวรรคสาม และไม่มีผลย้อนหลังไปถึงการเลือกตั้งส.ส.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเป็นสืบเนื่องมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของ กกต. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง(2) ว่า การคิดคำนวณจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี โดยนำจำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรตามที่สำนักทะเบียนกลางประกาศ ณ วันที่ 31 ธ.ค. ของปีที่ล่วงมามาใช้ในการคิดคำนวณจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ถูกต้องหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยดังกล่าวมีผลให้ กกต.จะต้องมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ โดยจะต้องไม่นำผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคิดคำนวณ ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักงาน กกต.ได้มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการแบ่งเขต โดยไม่นำผู้ไม่มีสัญชาติไทยมาคิดคำนวณไว้แล้ว
และเบื้องต้นการคำนวณใหม่จะมีให้ 8 จังหวัด มีความเปลี่ยนแปลง คือ 4 จังหวัดที่มีจำนวน ส.ส.ลดลง ประกอบไปด้วย 1. ตาก2. เชียงราย 3. เชียงใหม่ และ 4. สมุทรสาคร
ส่วนจังหวัดที่จำนวน ส.ส. เพิ่ม คือ 1. อุดรธานี 2. ลพบุรี 3.นครศรีธรรมราช และ 4. ปัตตานี
และจากการคำนวนโดยนำเฉพาะจำนวนราษฎรสัญชาติไทยทั้งชายและหญิงทั่วประเทศ 65,106,481 หากด้วย 400 เขต จะมีค่าเฉลี่ยประชากรต่อ 1 เขต 162,766 ซึ่งเดิมค่าเฉลี่ยที่นับรวมราษฎรที่นับบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยด้วยคือ 165,226 คนต่อเขต