กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พันธมิตรท่าน้ำ ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันจัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ครั้งที่ 9 ภายใต้แนวคิด “เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาร่วมฉลองปีใหม่ไทยในเทศกาลสงกรานต์ พร้อมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีดีงาม ที่ถูกกล่าวขานจากทั่วโลกของพลัง Soft Power สู่การเป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” อันทรงคุณค่าของโลก และเป็นหมุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่จะเดินทางมาร่วมสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของวิถีความเป็นไทย เพื่อก้าวข้ามปีใหม่ไทยอย่างงดงาม ที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียนให้งานสงกรานต์ในประเทศไทย เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ครั้งที่ 9 นี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่พี่น้องชาวไทย จะได้ร่วมงานประเพณีสงกรานต์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อร่วมสืบสานประเพณีอันดีงาม และคงความเป็นอัตลักษณ์ของความดีงามก้าวข้ามปีใหม่ไทย กับความภาคภูมิใจในการจัดงาน“สงกรานต์ดีงามอย่างไทย” ของพลัง Soft Power ไทยสู่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยองค์การยูเนสโก ในนามการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุน และส่งเสริมการจัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” มาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ขอชื่นชม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นหัวเรือหลักในการริเริ่มการจัดงานเพื่อสืบสานประเพณี อันดีงาม นี้มาตั้งแต่ปี 2558 รวมถึงหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการดีๆ เช่นนี้มาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นงานสงกรานต์ต้นแบบได้อย่างงดงามของการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนในมิติต่างๆ เช่นการสร้างการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมการเก็บกลับรีไซเคิล การเชื่อมโยงต่อยอดเครือข่ายแห่งความยั่งยืนให้กับชุมชน ช่วยส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ และความมั่งคั่งอย่างทั่วถึง อันจะนำไปสู่ “การเติบโตอย่างทั่วถึง อย่างสมดุล และอย่างยั่งยืน” ที่จะตอกย้ำภาพลักษณ์อันดีด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยสู่สายตานานาชาติได้อย่างยั่งยืน
ด้านนายนิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ในนามของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนหลักการจัดงาน กล่าวว่า การจัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 9 เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อสืบสานประเพณีดีงามของไทยในสถานที่ที่มีความสำคัญกับชาวพุทธ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้เข้าวัด ทำบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคล ต้อนรับปีใหม่ไทย ด้วย ไทยเบฟ ตระหนักถึงความสำคัญของการสืบสาน รักษา และต่อยอด มรดกอันทรงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมของไทย ให้ยังคงความดีงามอย่างยั่งยืน และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยสืบไป
พร้อมต่อยอดความสำเร็จของการจัดงาน “Water Festival เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” เพื่อ “บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก” พร้อมตอกย้ำแนวคิดเรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ให้มีความยั่งยืน สอดรับกับนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว ด้วยการเชิญชวนให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริม สืบสานประเพณี และวัฒนธรรมอันเป็นมรดกของไทยไปสู่สากล
สำหรับงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ …วิถีไทย” ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2567 โดยจัดขึ้นทั้งหมด 4 ภาค ใน 6 จังหวัด ได้แก่ ภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร บนแลนด์มาร์คที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ อาทิ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, ท่าสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ท่าศาลเจ้ากวนอู ฯลฯ ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดลำพูน ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดขอนแก่น เพื่อตอกย้ำสงกรานต์ร่วมสมัยที่สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของ Soft Power สู่การเป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” อันทรงคุณค่าของโลก ที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสงกรานต์ในประเทศไทย เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติอันสร้างความภูมิใจให้คนไทย
ขณะที่นายสุรพล เศวตเศรนี ประธานการจัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” กล่าวว่า งาน Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย จัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ 2558 ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ที่มาเที่ยวชมงานอย่างคึกคักทุกพื้นที่ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่งจากเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ มาโดยตลอด จนเกิดเป็นกระแส “Soft Power” ทำให้ “งานสงกรานต์ในประเทศไทย” เป็น Festival ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่จะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์อันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของเทศกาลสงกรานต์ไทย
ในปีนี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” ให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้ร่วมสนุกอย่างดีงามก้าวข้ามปีใหม่ไทยไปด้วยกัน กับกิจกรรมมากมาย อาทิ ตักบาตรทางน้ำ ที่จะจัดขึ้น ณ คลองโอ่งอ่าง การแห่พระพุทธรูปประจำพระอารามทางน้ำจาก 5 พระอารามหลวง ลอดอุโมงค์น้ำพระพุทธมนต์ สรงน้ำพระพุทธรูปประจำวัด ช้อปสินค้าชุมชนในตลาดโบราณ และมหรสพความบันเทิงอีกมากมาย รวมไปถึง ภาคเหนือ จัดที่ จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดลำพูน ภาคใต้ จัดที่ จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่ จังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่ทั่วประเทศ
การจัดงาน “Water Festival เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ยังคงสานต่อกิจกรรมดีงามด้านสิ่งแวดล้อม และสังคมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ กิจกรรมเก็บ กลับ รีไซเคิล กิจกรรม “เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม” เพื่อเสริมสร้างทักษะ และฝึกฝนการเป็นเจ้าบ้านที่ดี หวงแหนในชุมชนบ้านเกิด และบอกเล่าสถานที่สำคัญ รวมถึงวิถีชีวิตของชุมชนให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่มาเที่ยวภายในงาน พร้อมลัดล่องเรียนรู้เกร็ดเรื่องราวย่านวิถีเก่า ผ่านการล่องเรือ และ เดินชม ย่านชุมชนเก่าสัมผัสมนต์เสน่ห์เรื่องเล่าของวันวานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ร่วมพิธีสรงน้ำพระพุทธรูปมงคล และรดน้ำดำหัวตามประเพณีโบราณด้วยน้ำอบไทยตำรับชาววัง และ ดอกไม้มงคล เก็บภาพที่ระลึกสุดประทับใจกับฉายานิติกร รวมถึงการจัดเทศกาลอาหารมงคลทั้ง 4 ภาค
ความพิเศษของงาน “Water Festival เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ในปีนี้คือการขยายพื้นที่จัดงานมาที่ “คลองโอ่งอ่าง” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Landmark การท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ของพื้นที่การท่องเที่ยวต้นแบบในด้านการปรับปรุงภูมิทัศน์ (Landscape Improvement Project) ที่การันตีด้วยรางวัล Asian Townscape Awards จาก UN-Habitat Fukuoka ที่จะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาร่วมสัมผัสวิถีชีวิตย่านการค้าเก่าแก่ ผสมผสานพหุวัฒนธรรมไทย มอญ จีน อินเดีย และเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมมากมาย อาทิ พายเรือคายัคสุด Exclusive กับทริปเจาะเวลาหาอดีตสัมผัสมนต์เสน่ห์ของวิถีชุมชนริมน้ำสมัยรัชกาลที่ 1 กับเรื่องเล่าสองฟากฝั่งตั้งแต่ป้อมพระสุเมรุจนถึงสะพานวัดบพิตรพิมุข ดื่มด่ำบรรยากาศสุดชิล ชม ชิม ช้อป อิ่มอร่อยไปกับร้านอาหารเด็ดเจ้าดังมากมาย ตลอดสองฝังคลอง เช็คอินจุดถ่ายภาพ ที่คุณไม่ควรพลาด และขอเชิญชวนร่วมตักบาตรทางน้ำ สรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้สูงวัยที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย
นับเป็นเทศกาลสงกรานต์ที่สืบสานประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี จากการผสานความร่วมมือทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานแบบบูรณาการ ตอกย้ำภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย จากพลัง Soft Power สู่การเป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” และการเป็น Landmark การท่องเที่ยวระดับโลก ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook : Water Festival Thailand