ดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลทำให้ผลผลิตของพืชลดลง ส่วนหนึ่งมีผลมาจากการจัดการการเพาะปลูกพืชที่ไม่ดีพอ จึงมีการนําเอาผลผลิตและเศษเหลือของพืชออกไปยังแหล่งอื่นมากกว่าที่จะทดแทนธาตุอาหารพืชในดิน แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถปรับปรุงบำรุงดินเหล่านั้นได้ด้วยการปลูก “พืชปุ๋ยสด” ซึ่งสามารถช่วยให้เกิดสมดุลของการหมุนเวียนธาตุอาหารในดิน
โดยพืชปุ๋ยสดมีระบบรากที่จะช่วยดูดธาตุอาหารจากดินชั้นล่างขึ้นมาสู่ดินชั้นบน ส่งผลทำให้พืชได้รับสารอาหารที่เพียงพอที่จะสามารถนําไปใช้ในการเจริญเติบโต ออกดอกออกผล โดยเรามักนิยมใช้พืชวงศ์ถั่ว เช่น ปอเทือง ถั่วพร้า ถั่วพุ่ม โสนอัฟริกัน เพราะพืชวงศ์ถั่วปลูกง่าย โตเร็ว ลำต้นมีใบจำนวนมาก เมล็ดพันธุ์หาได้ง่าย ราคาถูก เมื่อสับกลบลงดินแล้วย่อยสลายตัวเร็ว และที่สำคัญที่สุดมีรากและลำต้นที่สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศ
โดยจุลินทรีย์ที่อยู่ในปมของรากและลำต้น จะเป็นตัวช่วยเพิ่มธาตุอาหารให้แก่ดิน ซึ่งพื้นที่ดินที่มีลักษณะที่แตกต่างกันตามภูมิภาคต่างๆ ก็จะมีความเหมาะสมในการปลูกพืชปุ๋ยสดที่แตกต่างกันไป เรามาดูกันดีกว่าว่าพื้นที่ดินแบบไหนเหมาะที่จะปลูกพืชปุ๋ยสดอะไรบ้าง
พื้นที่ดอน พื้นที่ดินที่ไม่มีน้ำแช่ขัง พบบริเวณที่เป็นเนิน ดินระบายน้ำได้ดี เหมาะสำหรับการปลูกพืชไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น แบ่งออกเป็นได้ 2 กลุ่มย่อย ได้แก่ พื้นที่ดอนเขตดินแห้ง พื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง และพื้นที่ดอนเขตดินชื้น เขตที่มีฝนตกชุก โดยพืชปุ๋ยสดที่แนะนำในการปลูกบนพื้นที่ดินทั้ง 2 แบบนี้ คือ ปอเทือง ถั่วพร้า ถั่วพุ่ม
พื้นที่ลุ่ม เป็นพื้นที่ดินที่พบได้ทุกภาค ดินระบายน้ำไม่ดีน้ำแช่ขังในฤดูฝนเหมาะสำหรับการปลูกข้าว ไม่เหมาะสำหรับการปลูกพืชไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น แบ่งออกเป็นได้ 2 กลุ่มย่อย ได้แก่ พื้นที่ลุ่มดินไม่เค็ม พืชปุ๋ยสดที่แนะนําให้ปลูกก่อนหรือหลังเกี่ยวข้าว คือ ปอเทือง ถั่วพร้า ถั่วพุ่ม โสนอัฟริกัน และพื้นที่ลุ่มดินเค็ม พืชปุ๋ยสดที่แนะนําให้ปลูกในดินเค็มก่อนหรือหลังเกี่ยวข้าว คือ โสนอัฟริกัน เพราะทนต่อดินเค็ม และน้ำท่วมขังได้