ชป.ป้องน้ำเค็มรุกลุ่มน้ำบางปะกง ช่วยชาวแปดริ้ว-ปราจีนฯ มีน้ำอุปโภคบริโภคและเกษตรกรรม

15 ธ.ค. 2567 | 04:14 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ธ.ค. 2567 | 04:26 น.

กรมชลประทาน ป้องน้ำเค็มรุกลุ่มน้ำบางปะกง ช่วยพี่น้องประชาชนชาวฉะเชิงเทรา-ปราจีนบุรี มีน้ำอุปโภคบริโภคและเกษตรกรรมใช้

กรมชลประทาน เตรียมระบายน้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก เสริมน้ำที่ระบายมาจากอ่างเก็บน้ำคลองสียัดและอ่างเก็บน้ำคลองระบม จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนหน้า เพื่อช่วยชะลอน้ำเค็มรุกตัวในลุ่มน้ำบางปะกง ช่วยให้พี่น้องประชาชนชาวฉะเชิงเทราและปราจีนบุรี มีน้ำอุปโภคบริโภคและเกษตรกรรมใช้ตามเวลาที่กำหนด ตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
 

ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 9 ได้ปรับแผนการระบายน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล เพื่อควบคุมความเค็มในลุ่มน้ำบางปะกง เนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำบางปะกง โดยเฉพาะในแม่น้ำปราจีนบุรี ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. 67 กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ คาดการณ์ว่าน้ำทะเลจะหนุนสูงสุด ทำให้ค่าความเค็มมีแนวโน้มที่จะรุกตัวเข้ามาถึงจุดควบคุมที่ 1 บริเวณเขื่อนบางปะกง (ระยะทาง 66 กิโลเมตร จากปากแม่น้ำบางปะกง) ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ล่าสุด (วันที่ 14 ธ.ค. 67) วัดค่าความเค็มสูงสุดได้ 1.33  กรัมต่อลิตร เกินเกณฑ์ควบคุมค่าความเค็มจุดควบคุมที่ 1 ที่จะต้องไม่เกิน 1 กรัมต่อลิตร (ก่อนวันที่ 31 ธ.ค. 67) 

ดังนั้น เพื่อให้การควบคุมความเค็มในลุ่มน้ำบางปะกงในช่วงฤดูแล้งปี 2567/68 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นจริง สำนักงานชลประทานที่ 9 ได้ปรับแผนการระบายน้ำ จากเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก โดยจะเริ่มระบายน้ำในช่วงวันที่ 14-19 ธ.ค.67 (เดิมวางแผนระบายน้ำไว้ในช่วงวันที่ 1-31 ม.ค. 68)  ในอัตรา 1 ล้าน ลบ.ม./วัน รวมปริมาณน้ำทั้งสิ้น 31 ล้าน ลบ.ม. ก่อนจะระบายน้ำอีกครั้งในวันที่ 1-26 ม.ค. 68 ในอัตราเท่าเดิม พร้อมกันนี้ ได้ให้โครงการชลประทานที่เกี่ยวข้องประสานหน่วยงานท้องถิ่น ร่วมกันประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนงดรับน้ำจากแม่น้ำบางปะกง แม่น้ำปราจีนบุรีเข้าพื้นที่ในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด เพื่อให้การควบคุมความเค็มเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ