8 ก.ย.2565- นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ากว่า 38 ปีที่แสนสิริเริ่มต้นมาจากการพัฒนาโครงการระดับลักซ์ชั่วรี "บ้านไข่มุก" และตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยในระดับลักซ์ชัวรีและซเปอร์ลักซ์ชัวรี ด้วยความสำเร็จอย่างชัดเจนทั้งในโครงการแฟล็กชิพ "98 Wireless"คอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รวมถึง บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี "บ้านแสนสิริ สุขุมวิท67"และ "บ้านแสนสิริ พัฒนาการ" บ้านเดี่ยวระดับชูเปอร์ลักซ์ชัวรี ที่เป็นโครงการที่ถูกกล่าวถึงและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของแสนสิริจนถึงปัจจุบันทั้งในด้านการลงรายละเอียดในการออกแบบที่ Timeless งดงามเหนือกาลเวลา บริการที่รังสรรค์มาเป็นพิเศษ คุณภาพโครงการ และมูลค่าโครงการที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น
ล่าสุด แสนสิริประสบความสำเร็จอีกครั้งใน "นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา" โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี อันทรงคุณค่าของการอยู่อาศัย หนึ่งใน Sansiri Luxury Collection ที่รังสรรค์บนนิยามบทใหม่ของลักซ์ชัวรี ในแนวคิด"A Matter of Refinement งดงามในรายละเอียด" ท่ามกลางสังคมคุณภาพบนกรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้The Best Location ในย่านกรุงเทพกรีทา รังสรรค์อย่างละเมียดละไม ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อมอบที่สุดของสุนทรียะประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยรสนิยมอันสมบูรณ์แบบแก่สมาชิกทุกคนในครอบครัว พร้อมส่งต่อคุณค่าเหนือกาลเวลาอย่างไม่สิ้นสุด เพียงสำหรับ 86 ครอบครัว ระดับราคา 50 - 100 ล้านบาท
ทุบสถิติปิดการขายบ้านระดับลักซ์ชั่วรีของแสนสิริ รวดเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ ใน 1 เดือน และสร้างประวัติศาสตร์โครงการลักซ์ชั่วรีที่ขายดีที่สุดและเร็วที่สุดในไทยในขณะนี้ สร้างยอดขายรวม 6,000 ล้านบาท
"แสนสิริสานต่อความสำเร็จในบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชั่วรี แบรนด์ นาราสิริ (Narasiri) จากความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 38 ปี กว่า 15 ล้านตารางเมตรในกว่า 300 โครงการที่แสนสิริพัฒนาในทุกเซ็กเมนท์ และกว่า 300,000 ครอบครัวแสนสิริ เรายังคงดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ส่งมอบที่อยู่อาศัย แต่เรามอบคุณค่าและประสบการณ์การใช้ชีวิต ด้วยการสั่งมอบบริการที่ดีที่สุด Lifetime Service และ ดูแลที่อยู่อาศัยให้งดงามคงสภาพที่ Timeless เสมือนวันแรกไม่ว่าเวลาจะผ่านพ้นไป ซึ่งยังสร้างมูลค่าเพิ่มไปพร้อมกับกาลเวลาด้วยมาตรฐานคุณภาพของการพัฒนาโครงการ"
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะขายโครงการระดับลักซ์ชั่วรีภายในระยะเวลาอันสั้น แต่แสนสิริสามารถสร้างประวัติศาสตร์การปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคา 50 - 100 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม6,000 ล้านบาทได้ภายใน 1 เดือนเท่านั้น เพราะเราเข้าใจในทุกรายละเอียดอย่างลึกซึ้ง และเชื่อว่าการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ดีมีคุณภาพ การใช้ชีวิตอย่างมีรสนิยม และความปลอดภัยสูงสุดนั้น เป็นสิ่งที่ลูกค้าลักซ์ชัวรีให้ความสำคัญ ตลอดจนความใส่ใจในทุกรายละเอียด เป็นปรัชญาสำคัญที่แสนสิริไม่เคยลดละ และยึดมั่นเสาะแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดทั่วทุกมุมโลก
จนโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีทาได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยมตั้งแต่ก่อนเปิดให้ข้าชมและสัมผัสโครงการจริงจนกระทั่งปิดการขาย เพราะความเชื่อมั่นจากลูกค้าในแบรนด์แสนสิริ รสนิยม และคุณภาพโครงการ คำว่าลัซ์ชัวไม่ใช่แค่การเลือกใช้ของที่มีราคาสูงเท่านั้น แต่เป็นวิธีในการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อเข้าถึงรายละเอียดของความงดงามสะท้อนผ่านงานดีไซน์ในทุก ๆ จุด
โดยนาราสิริรังสรรค์มาเพื่อมอบความงดงามแท้จริงที่เกิดจากความเข้าใจลึกซึ้งในทุกรายละเอียด ทั้งดีไชน์ร่วมสมัย ที่จะคงความโดดเด่นในทุกช่วงเวลา อยู่ในทุกองค์ประกอบความสะดวกสบาย รองรับการใช้ชีวิตละเมียดละไม พร้อมประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือระดับ ทั้งหมดก็เพื่อให้ทุกรายละเอียด ถูกส่งต่ออย่างงดงามที่สุด
นอกจากนี้ความสำเร็จของนาราสิริ กรุงเทพกรีทา (NARASIRI Krungthep Kreetha) ที่สำคัญยังมาจากแนวคิดการพัฒนาโครงการและดีไซน์ที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากบรรยากาศของยุครุ่งเรืองของนิวยอร์กสู่การออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ "Renaissance Revival" ตั้งแต่การออกแบบผังโครงการที่จัดวางตามแบบของย่านแมนฮัตตันในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งมี Central Park เป็นศูนย์กลางเพื่อให้ทุกสมาชิกครอบครัวได้ดื่มด่ำไลฟ์สไตล์อันเหนือระดับที่คลับเฮาส์ รวมถึงการออกแบบสถาปัตยกรรมและประติมากรรมงานคราฟท์อย่างมีรสนิยมผสานกลิ่นอายของอเมริกัน ทว่าคงไว้ซึ่งความงดงามในทุกยุคสมัย เพื่อควรค่าแก่การเป็นมรดกที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างเต็มภาคภูมิ สะท้อนผ่านความวิจิตรของการออกแบบสถาปัตยกรรมอย่างมีชั้นเชิงในทุกพื้นที่โครงการ ตั้งแต่บริเวณทางเข้าหลัก ส่วนกลาง และสวนอันรื่นรมย์ Main Gate ประตูทางเข้าหลักอันสูงสง่าและโอ่อ่ากับดีไซน์ขนาดใหญ่พิเศษ สูงถึง 12 เมตร โดยพื้นทางเข้าโครงการปูด้วยอิฐในสไตล์ Herringbone BrickPattern ภายในสวนมีประติมากรรมน้ำพุ อันวิจิตรของงานคราฟท์ที่นำแรงบันดาลใจมาจาก Bethesda fountain กับรูปปั้น Angel of the Waters และ lake ใน Central Park พร้อม Maze Playground สนามเด็กเล่น แรงบันดาลใจจาก Alice in Wonderland
โดยส่วนของ Clubhouse & Pavilion ที่เด่นตระหง่านต้อนรับผู้มาเยือนอย่างสง่างาม ด้วยการใช้สีน้ำตาลของสีBrownstone ตามแบบฉบับของที่อยู่อาศัยในมหานครนิวยอร์กอันเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานกับการใช้Wrought Iron ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างตัวอาคารด้วย skybridge ภายในคลับเฮาส์ออกแบบด้วยสไตล์ Gilded Age Chic ห้องสูงโปร่ง ฝ้าเพดานที่ออกแบบอย่างประณีต รับกับประตูทรงโค้งอันงดงาม ซึ่งประกอบด้วยห้องต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อย่างเหนือระดับ ได้แก่ Drawing Room ห้องพักผ่อนของสมาชิกครอบครัวและ
รับรองแขกผู้มาเยือน Punch Room ห้องพักผ่อนและพบปะสังสรรค์ พร้อม Social Bar และ โต๊ะ Pool ให้กลิ่นอายของคลับในนิวยอร์กอย่างแท้จริง หรือ จัดเลี้ยงในวันพิเศษของครอบครัวและเพื่อนสนิท
สำหรับผู้รักการออกกำลังกาย ห้อง Gym พร้อมอุปกรณ์ครบครัน และ The library ห้องประชุมที่รองรับการติดต่อธุรกิจ รวมถึงสระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 25 เมตร ตกแต่งพื้นสระด้วยสัญลักษณ์ "NS" ซึ่งเป็นอักษรย่อของชื่อโครงการพร้อมสระเด็ก ตลอดจน Facade ของ Entrance Hall ทางเข้าหน้าบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของนิวยอร์ก รวมถึง การตั้งชื่อบ้านด้วยชื่อ NoHo ที่มีแรงบันดาลจาก North of Houston ย่านที่อยู่อาศัยลักช์ชั่วรีในนิวยอร์ก
"แสนสิริได้วางแผนเดินหน้าเปิดตัวโครงการ "นาราสิริ พหล - วัชรพล" เพื่อต่อยอดความสำเร็จแบรนด์นาราสิริในปี 2566 พร้อมรุกเปิดตัวโครงการ "บูก้าน กรุงเทพกรีทา" ในทำเล "กรุงเทพกรีทา คอมมูนิตี้" " ซึ่งนับเป็นสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบที่แสนสิริประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องทั้งในโครงการ บุราสิริ กรุงเทพกรีทา ที่ปิดการขายเฟสแรกทันที! ในวันพรีเซลล์ รวมถึงนาราสิริ กรุงเทพกรีฑาที่สร้างประวัติศาสตร์โดรงการลักซ์ชั่วรีที่ขายดีที่สุดและเร็วที่สุดในไทยในขณะนี้
นอกจากนี้ ความสำเร็จจากการปิดการขายโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา ยังส่งผลให้ ล่าสุดแสนสิริมียอดขายจากโครงการแนวราบไปแล้วถึง 23,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นถึง 87% จากเป้าหมายยอดขายโครงการแนวราบที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 27,000 ล้านบาท รวมทั้งมียอดขายรวมล่าสุด 30,500 ลัานบาท หรือคิดเป็นเกือบ 90%จากเป้าหมายยอดขายรวม 35.000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าแสนสิริจะทำผลงานได้ตามที่วางเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน"