รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน บูมโซนตะวันออก ทำเลศรีราชา เปลี่ยนแปลงมากสุด ในชลบุรี ขณะระยอง-แปดริ้ว น่าสนใจรองลงมา
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อกลุ่มซีพีเลือกเดินหน้าลุยโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) สยบกระแสร้อนทางการเมืองลงได้อย่างมาก
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า คงต้องจับตาตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง โดยเฉพาะพื้นที่อีอีซี จะพบว่า จ.ชลบุรี มีแนวโน้มการเติบโตมากกว่า จ.ระยอง และฉะเชิงเทรา โดย อ.ศรีราชา จะมีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงมากกว่าโซนอื่น ๆ เช่นเดียวกับพื้นที่รอบสถานีต่าง ๆ อาทิ จ.ชลบุรี คาดว่าจะยังไม่เปลี่ยนได้ตามที่นำเสนอ เนื่องจากหลายจุดพบว่าเป็นที่ดินรัฐ โอกาสที่จะนำที่ดินออกเช่าพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ควรพัฒนาเฉพาะที่อยู่อาศัย หากมอบให้การเคหะแห่งชาติไปดำเนินการ คิดว่าจะมีผู้ใช้บริการรถไฟความเร็วสูงจำนวนมากจริงหรือไม่ รัฐต้องพัฒนารูปแบบศูนย์เศรษฐกิจ เนื่องจากจะมีผู้คนอยู่โดยรอบศูนย์ดังกล่าว
⇲ พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์
สำหรับการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่อีอีซีต้องดูทิศทางการเมือง หากเป็นพรรครัฐบาลปัจจุบันจะเดินหน้าต่อไป หากเป็นพรรคอื่นแน่นอนว่าคงจะมีการปรับเปลี่ยนบางอย่างได้ หรือ มากกว่านั้น แต่ที่แน่ ๆ รัฐบาลชุดใหม่คงจะปฏิบัติตามแนวทางเดิมไม่ได้ เพราะเป็นรัฐบาลผสม
"ใครมาคุมอำนาจในกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทิศทางนโยบายจะกำหนดอย่างไร เรื่องผังเมืองก็มีความสำคัญ กระทรวงที่เกี่ยวข้องจะปฏิบัติสอดคล้องกันหรือไม่ ล้วนมีผลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ทั้งสิ้น ยังเชื่อว่า รัฐบาลไหนเข้ามาบริหารประเทศยังเดินหน้าผลักดันระบบรางต่อไป ที่ผ่านมา เชื่อว่ากลุ่มซีพีเดินหน้าต่อ และล่าสุด ก็เดินหน้าจริง ๆ"
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า โครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่อีอีซีมีความชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ส่งผลต่อความคาดหวังของกลุ่มนักลงทุนที่จะเข้ามา ดังนั้น การที่อีอีซีสามารถเดินไปตามแผนจะก่อให้เกิดความเชื่อมั่น และแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง ยังมีความน่าสนใจ มีพื้นที่ใหม่ ๆ ขยายเพิ่มเพื่อลงทุน
หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,460 วันที่ 11-13 เมษายน 2562