ดึกสงัดยามวิกาลบนถนนหัวมุมพระราม 4 ตัดถนนวิทยุ หากใครยังไม่หลับไหลและใช้ชีวิตติดอยู่บนท้องถนน จะเห็นรถปูนซีแพคจำนวน มากวิ่งหายวับเข้าพื้นที่อันกว้างใหญ่ 104 ไร่ โครงการอภิมหาโปรเจ็กต์ “วัน แบงค็อก” ของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ภายใต้การร่วมทุนยักษ์ใหญ่สิงคโปร์
“ฐานเศรษฐกิจ” สำรวจความคืบหน้าโครงการในยามค่ำคืน พบคนงานต่างเร่งมือเป็นระวิง สอบถาม บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮล ดิ้งส์ (ประเทศไทย)ฯ ให้ข้อมูลว่า บริษัทต้องเร่งก่อสร้างโครงการให้เป็นไปตามแผน แต่เนื่องจากโครงการ วัน แบงค็อกเป็นโครงการขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทั้งปริมาณรถยนต์ ผู้คน เข้าพื้นที่ค่อนข้างหนาแน่น ช่วงเวลากลางวัน และชั่วโมงเร่งด่วน ส่งผลให้การทำงานต่างขยับเป็นช่วงเวลากลางคืน ตั้งแต่ 5 ทุ่มเที่ยงคืนเป็นต้นไป โดยอาศัยจังหวะให้คนกลับเข้าบ้านให้มากที่สุด แม้จะมีคนบางกลุ่ม วิพากษ์วิจารณ์ถ่ายคลิป แพร่ภาพออกสู่โลกโซเชียล ถึงการเข้าออกของรถบรรทุกปูนว่าอาจจะสร้างฝุ่นพิษ เขม่า ควัน หนวกหู เสียงดัง ความสั่นสะเทือนจากเครื่องจักร มองว่าเป็นเรื่องปกติเหมือนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าตามเส้นทางต่างๆ ทั่วไป เพราะหากนำรถบรรทุกเข้าเมืองและสมทบกับการจราจรปกติในเวลากลางวัน ช่วงคนทำงาน มีนักเรียน นักศึกษาจำนวนมาก สัญจร จะกระทบหนักยิ่งกว่า
ขณะการก่อสร้างต้องดำเนินต่อไปจากการได้รับสิทธิการเข้าพื้นที่ก่อสร้าง สำหรับผู้รับเหมา ผู้พลิกโฉมจากผืนดินธรรมดาขึ้นรูปทรงอาคารสูงระฟ้าอย่าง บมจ.อิตาเลียนไทย ที่คาดหมายว่าจะทำหน้าที่ให้แล้วเสร็จเปิดใช้พื้นที่เฟสแรกในปี 2023 ในส่วนของอาคารสำนักงานจำนวน 5 อาคาร พื้นที่ 5 แสนตารางเมตร และพื้นที่โรงแรม รีเทลสูงที่สุดในประเทศไทย 430 เมตร ที่มีเป้าหมายชิงความได้เปรียบเปิดให้บริการในปี 2564
ผละจากโครงการ วัน แบงค็อก มุ่งหน้าเดินไปบนถนนสายเดียวกันย่านพระราม 4 มองเห็นความก้าวหน้า โครงการเดอะพาร์ค มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ตั้งอยู่หัวมุมแยกคลองเตย หรือ พระราม 4 ตัดกับถนนรัชดาภิเษก ไม่ห่างจากโครงการปรับปรุง อาคารศูนย์การประชุมฯสิริกิติ์ พบว่างานก่อสร้างคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่อาคารสำนักงานเฟสแรก เปิดให้ผู้เช่าเข้าพื้นที่ตกแต่งภายใน ซึ่งล้วนแต่เป็นลูกค้าระดับโลก เช่น จาก ประเทศสหรัฐอเมริกา ทุนญี่ปุ่น ส่วนจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงยังไม่พบว่ามีการเข้ามาติดต่อ แต่ทั้งนี้เป็นไปได้ว่ากลุ่มทุนจีน ฮ่องกง ส่วนใหญ่จะลงทุนสร้างอาคารสำนักงานเอง หรือไม่ ต่างพากันไปเช่าอาคารสำนักงานย่านคุ้นเคยอย่าง รัชดาภิเษก พระราม 9 เป็นต้น
สำหรับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตามสัญญาใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างตอกเสาเข็ม หากแล้วเสร็จเปิดให้บริการในปี 2565 จะพบความอลังการ รองรับแขกผู้มาเยือน บนพื้นที่กว้าง 2.9 แสนตารางเมตร ความสูงไม่เกิน 23 เมตร จากเดิมพื้นที่ค่อนข้างคับแคบ 9 หมื่นตารางเมตรไม่สัมพันธ์กับปริมาณงานที่มากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เชื่อมถึง
ประเมินว่าอีกไม่นานบนถนนพระราม 4 จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนเข้าใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นประมาณ 5-6 หมื่นคน แต่จะไม่เติมคน ลงสู่ท้องถนน แย่งชิงการใช้สาธารณูปโภค สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้เส้นทางอยู่เดิมเพราะส่วนใหญ่จะอยู่อาศัยและทำงานภายในแต่ละโครงการของ เจ้าสัวเจริญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “วันแบงค็อก”
ขณะคู่แข่งขันทำเลละแวกเดียวกัน ต่างเร่งวันเร่งคืน เช่นเดียวกัน อย่างกลุ่มเซ็นทรัล กับโรงแรมดุสิตธานี หลังจากทุบ สถาปัตยกรรมเก่าแก่โบราณ พร้อมตอกเสาเข็มเนรมิตโครงการใหม่ หรูหราสุดทันสมัย ทำเลหัวมุมพระราม 4-สีลม ติดรถไฟฟ้าบีทีเอส เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย ที่ เจ้าสัวเจริญ ต้องเตรียม พร้อมรับมือเช่นกัน ขณะสถานทูตอังกฤษ อัครสถานเก่าแก่ เนื้อที่ 23 ไร่ ขณะนี้กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกับฮ่องกงแลนด์ อยู่ระหว่างวางแผน โดยระบุว่าแบบที่ ออกมาจะต้องอลังการ และเป็นที่เสียวสันหลังให้กับกลุ่มทุนที่เปิดตัวเผยโฉมไปก่อนหน้านี้ มากพอสมควร
ความคึกคักจากการลงมือก่อสร้างของ ดีเวลอปเปอร์ยักษ์ใหญ่ แนวโน้มราคาที่ดินจะขยับขึ้นอีก จาก 2 ล้านบาทต่อตารางวา แต่ไม่ใช่ ณ ห้วงเวลานี้ เนื่องจากคอนโดมิเนียมยังมีจำนวนหน่วยเหลือสะสมในตลาดสูง จนต้องชะลอโครงการใหม่ๆออกไป
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,556 วันที่ 12-14 มีนาคม 2563