คอนโดดัมพ์ราคาครั้งแรกรอบ8ปีหลังน้ำท่วมใหญ่

18 เม.ย. 2563 | 10:02 น.
อัปเดตล่าสุด :19 เม.ย. 2563 | 11:32 น.

 

 

 

ตลาดคอนโดมิเนียมได้รับผลกระทบเชิงลบมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 จาก ซัพพลายล้นเกินดีมานด์     ผลพวง สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐอเมริกา  เงินบาทแข็งค่า   ลูกค้าจีน หดหาย   คำสั่งรัฐบาลจีน ห้ามนำเงินออกนอกประเทศ สถานการณ์ความไม่สงบ ของเกาะฮฮงกง ซ้ำเติมด้วยมาตรการสกัด ฟองสบู่ ธนาคารแห่งประเทศไทย  ออกมาตรการLTV  สะกัดเก็งกำไรเงินทอน หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรรายได้ กำหนด คนซื้อวางเงินดาวน์สูง ท่ามกลางกำลังซื้อ การออมเงินของคนในในประเทศอ่อนแอ

แม้ปลายปีที่ผ่านมา แบงก์ชาติ  จะคลาย กฎLTV  ให้พอหายใจ ได้บ้าง  แต่    เมื่อก้าวเข้าสู่เดือนมากราคม ปีนี้  ตลาดอสังหาริมทรัพย์  ถูก สงครามเชื้อโรค ไวรัสโคโรนา หรือโควิด -19 ถล่มซ้ำ กระทบรุนแรงฉุดกำลังซื้อคอนโดมิเนียม ลดลงอย่างรวดเร็ว สะท้อนจาก ยอดขายไตรมาสแรก ลดลงมากถึง 30%

นักวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์  ประเมินว่า ลดลง เป็นประวัติศาสตร์ในรอบ 8ปี นับตั้งแต่ปี 2555 เช่นเดียวกับ  ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่ระบุว่า  ในไตรมาสนี้ ทั้งกำลังซื้อคนไทยและคนต่างด้าว โดยเฉพาะชาวจีน กลุ่มผู้ซื้อหลัก ในเขตกรุงเทพฯ – ปริมณฑลหายไปจากตลาด

ส่งผลให้ไตรมาส2  มหกรรมโล๊ะสต็อก  จึงกระหึ่มขึ้น  ท่ามกลาง ความโหดร้ายของไวรัสโควิด-19   โครงการพร้อมอยู่ และ หน่วยที่หมุนเวียนกลับมาขายใหม่  ตัวเลขทั่วประเทศทุกระดับราคาไม่ต่ำกว่า1-2แสนหน่วย      

ขณะตัวเลข ที่อยู่อาศัยทัวประเทศ ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส.มีมากกว่า3แสนหน่วยที่ค้างสต็อก ที่ขายไม่ได้เลยสำหรับคอนโดมิเนียม และบ้านแนวราบมีจำนวน6.9 หมื่นหน่วยทั่วประเทศแยกเป็นคอนโดมิเนียม กว่า3หมื่นหน่วย

 ดังนั้น ในไตรมาส 2ผู้ประกอบการ 41.8%  ใช้กลยุทธ์ลดราคาคอนโดมิเนียม ที่เหลือขายและ คอนโดมิเนียม ที่ถูกทิ้งดาวน์ ลูกค้ากู้ไม่ผ่าน หมุนเวียนกลับมาขายใหม่  โดยลดราคาขายลงตั้งแต่ 10 – 36.2 %เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา และประเมินว่า เป็นการลดราคาลงของคอนโดมิเนียมเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ ปี2555 ยุคเฟื่องฟู ของตลาดนี้ หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ปลายปี2554