นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า FPT ได้เปิดตัวโครงการนำร่อง AEI ปรับปรุงคุณภาพและรูปแบบโรงงานและคลังสินค้าให้มีความเป็นเลิศ ด้วยกระบวนการทำงานและวิธีการก่อสร้างที่ทันสมัย พร้อมกับวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงจาก CPAC CS ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฉลากเขียวซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงาน
นอกจากนี้ ยังเน้นการออกแบบตบแต่งอาคารทั้งภายในและภายนอกให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมรองรับการเชื่อมต่อระบบอัจฉริยะ และการติดตั้งสมาร์ทเทคโนโลยี อาทิ การติดตั้งระบบควบคุมไฟฟ้าแสงสว่างอัตโนมัติเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน การติดตั้งเซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิเพื่อเพิ่มหรือลดอุณหภูมิหรือสั่งเปิด/ปิดแอร์อัตโนมัติ การตรวจสอบคุณภาพอากาศด้วยระบบอัจฉริยะพร้อมรายงานค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และสารเคมีในอากาศ การอนุญาตให้รถยนต์และพนักงานเข้า-ออกในพื้นที่ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติ การเก็บข้อมูลการใช้สาธารณูปโภคในระบบคลาวด์ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการได้ดียิ่งขึ้น เป็นต้น
ซึ่งบริษัทฯได้นำองค์ความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมมาปรับใช้กับโครงการ AEI หรือ โครงการการปรับปรุงคุณภาพและรูปแบบโรงงานและคลังสินค้า เพื่ออัพเกรดให้มีความทันสมัยและเพิ่มมูลค่าให้กับอาคารรุ่นเก่า ผสานกับวิธีการดำเนินงานของบริษัทฯที่ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer-Centric Approach) จึงมั่นใจได้ว่าโครงการ AEI นี้จะสามารถตอบสนองเทรนด์การใช้งานของลูกค้ายุคอุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างดี สำหรับโครงการนำร่องนี้ บริษัทฯรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง CPAC ในการคัดเลือกวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงและโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ ทำให้บริษัทฯสามารถพัฒนาโครงการ AEI ล็อตแรกสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี โดยความพิเศษอยู่ที่การให้บริการโซลูชั่นที่เหนือคู่แข่ง ด้วยสมาร์ทโซลูชั่นเพื่อความยั่งยืน (Smart Sustainable Solutions) ที่ลูกค้าสามารถเลือกรับโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการใช้งานได้ด้วยตัวเอง
ด้านนายชูโชค ศิวะคุณากร กรรมการผู้จัดการ ซีแพค คอนสตรัคชั่น โซลูชั่น กล่าวว่า การร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มขึ้น (Value Added) ให้กับลูกค้าที่ใช้บริการโรงงานและคลังสินค้าของ FPT ซึ่งบริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัย ระบบ Smart ต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการทุกรูปแบบ และระบบ Digitization มาใช้ตลอดกระบวนการก่อสร้างในทุกขั้นตอน ผ่านเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็ง จึงทำให้โครงการ AEI โรงงานและคลังสินค้าของ FPT เสร็จสมบูรณ์ด้วยคุณภาพที่ดีกว่าอย่างชัดเจน
ปัจจุบัน FPT นำร่องโครงการ AEI โรงงานและคลังสินค้าจำนวนทั้งสิ้น 3 อาคาร ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ประกอบด้วย โรงงานอุตสาหกรรมในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี และโครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ (โรจนะ) จ.อยุธยา และ คลังสินค้าในโครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ พาร์ค (วังน้อย 2) จ.อยุธยา นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่จะขยายการพัฒนาไปยังทำเลศักยภาพอื่นๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
“โครงการ AEI เป็นอีกทางเลือกที่จะสามารถปรับปรุงอาคารที่มีอยู่เดิมให้สามารถตอบสนองความต้องการให้แก่ลูกค้าในการ ใช้พื้นที่โรงงานและคลังสินค้าคุณภาพสูงในช่วงปัจจุบันด้วยดีไซน์ทันสมัย เพรียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ในทำเลยุทธศาสตร์ เนื่องจากเป็นอาคารประเภทพร้อมใช้ (Ready-Built) ลูกค้าจึงได้ประโยชน์จากการเข้าใช้พื้นที่ได้อย่างทันที ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดชะงัก” นายโสภณ กล่าว