นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/2564 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564) มีรายได้ 1,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 582 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตสูงถึง 98.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 591 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 320 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 250 ล้านบาท หรือ 361.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ
ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ถึง 48.5 % และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ถึง 25.7% นับเป็นการเติบโตแบบสวนกระแสในยุคโควิด นอกจากนี้ ด้วยการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ปรับตัวลดลงหลังเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
“แม้จะเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผลประกอบการของเราชะลอตัวลง ยอดโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดยังตรงตามเป้า ยอดขายในแต่ละโครงการยังคงเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์โมดิซ (MODIZ) ที่เปิดขายในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ไตรมาส 1/64 ได้มีการเปิดขายแบรนด์เคฟ “เคฟ ศาลายา (KAVE SALAYA)” ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท มียอดขายไปแล้วกว่า 60% ของห้องที่เปิดขาย สะท้อนให้เห็นถึง Real Demand ซึ่งโครงการอสังหาฯ ของเรา ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นคอนโด Best Choice ในทำเลนั้น”
ชูกลยุทธ์ Best Choice ในทุกทำเล
แอสเซทไวส์ตอกย้ำเป้าหมายการเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ รุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง เน้นโตด้วยกลยุทธ์ “Best Choice” หรือการพัฒนาคอนโดในเมืองให้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในทำเลนั้นๆ ทั้งความแม่นยำในการเลือกทำเล Blue Ocean ที่มีศักยภาพในอนาคต การให้พื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลายทั้งดีไซน์และฟังก์ชั่น รวมถึงการออกแบบตกแต่งห้องให้ครบครันในราคาที่คุ้มค่าเข้าถึงได้ อีกหนึ่งลายเซ็นที่มีเอกลักษณ์ของ ASW คือ ความตั้งใจศึกษาลงรายละเอียดเชิงลึกกับพฤติกรรมและวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยในย่านต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเข้าใจความต้องการที่แท้จริง ทั้งหมดนี้ จึงทำให้ผลประกอบการใน Q1/64 เติบโตอย่างน่าพึงพอใจในช่วงโควิด
ผู้นำแคมปัสคอนโด
หนึ่งในเรือธงที่ประสบความสำเร็จของแอสเซทไวส์ คือ กลุ่มแคมปัสคอนโดภายใต้แบรนด์เคฟ (KAVE) แบรนด์คอนโดมิเนียมเน้นทำเลใกล้มหาวิทยาลัย โดยในไตรมาส 1/64 บริษัทฯ มียอดโอนรับรู้รายได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากโครงการเคฟ ทาวน์ สเปซ (KAVE TOWN SPACE) และโครงการเคฟ ทาวน์ ชิฟท์ (KAVE TOWN SHIFT) ข้างมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,100 ล้านบาท ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะเห็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ มุ่งมั่นจริงจังกับการปลุกปั้นแบรนด์เพื่อกลุ่มแคมปัสคอนโดโดยเฉพาะ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในหลากหลายทำเลใกล้รถไฟฟ้าใจกลางเมือง เช่น ย่านรัชดา-ลาดพร้าว และย่านสุขุมวิท เป็นต้น ซึ่งนับเป็นยอด Backlog ที่รอรับรู้รายได้ภายในปีนี้อย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ มั่นใจโตต่อเนื่อง
ในไตรมาส 1/64 แอสเซทไวส์มียอดขายจากโครงการใหม่ เคฟ ศาลายา (KAVE SALAYA) โดยสามารถทำยอดขายไปแล้วกว่า 60% ของห้องที่เปิดขาย และภายในปีนี้ ยังมีโครงการเคฟ ทียู (KAVE TU) ตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และโครงการโมดิซ สุขุมวิท 50 (MODIZ SUKHUMVIT 50) คอนโดมิเนียม High-Rise ใจกลางย่านสุขุมวิทที่รอรับรู้รายได้อยู่เช่นกัน
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง แอสเซทไวส์เตรียมเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งแนวราบและแนวสูง มูลค่าโครงการรวม 9,700 ล้านบาท โดยจะทยอยเปิด ในไตรมาส 2/64 เช่น โครงการคอนโดมิเนียมแอทโมซ บางนา (ATMOZ BANGNA) และเคฟ เอวา (KAVE AVA) เป็นต้น
“มั่นใจว่ารายได้ในปี 2564 จะเติบโตกว่า 20% จากปีก่อนตามแผนงานที่วางไว้ โดยเน้นผลักดันให้ผลการดำเนินงานโตต่อเนื่องจากยอดขายรอโอน (Backlog) จำนวน 7,500 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้ถึงปี 2566 และโครงการสร้างเสร็จรอขายจำนวน 1,105 ยูนิต มูลค่า 3,133 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้มีการสรรหาผู้ร่วมทุนเพื่อเป็นแนวทางขยายการเติบโต และอยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ทเนอร์สำหรับโครงการในอนาคต โดย ณ ปัจจุบัน แอสเซทไวส์มีการลงนามในสัญญาร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัท ไอดีล เรียล จำกัด จัดตั้ง บริษัท ไพร์ซ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม เคฟ ศาลายา ร่วมกัน โดยการร่วมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะถือหุ้นในสัดส่วน 51 : 49 ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพ และสนับสนุนการเติบโตในอนาคตอย่างแข็งแกร่ง