หวั่นแรงงานขาด กระทบตลาดก่อสร้าง ตราเพชร แก้เกม รับคลายล็อกดาวน์

08 ก.ย. 2564 | 04:08 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ย. 2564 | 11:14 น.

‘บมจ.ตราเพชร ’ ส่องแนวโน้มตลาดวัสดุก่อสร้าง รับภาครัฐคลายล็อกดาวน์ หนุนความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดินหน้าดันโปรดักส์ Diamond Warehouse หนุนคู่ค้ารองรับความเสี่ยง ขณะจับตาปัญหาแรงงานก่อสร้างขาดแคลน และต้นทุนขนส่ง กดดันการเติบโตตลาด

นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูปและบริการหลังการขายภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 4 จะฟื้นตัวได้ดี หลังภาครัฐทยอยคลายมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง ทั้งการเปิดห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ใน 29 จังหวัดสีแดงเข้มและกิจกรรมการก่อสร้างดำเนินการได้ตามปกติ เป็นปัจจัยบวกต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและบรรยากาศการซื้อสินค้ามีความคึกคักมากขึ้น 

หวั่นแรงงานขาด กระทบตลาดก่อสร้าง ตราเพชร แก้เกม รับคลายล็อกดาวน์

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่กดดันตลาดซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ได้แก่ การขาดแคลนแรงงานก่อสร้างและด้านโลจิสติกส์การขนส่งสินค้าที่มีภาระต้นทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างและร้านค้าจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ต้องวางแผนบริหารจัดการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว 
 

“ตลาดวัสดุก่อสร้างในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าปีก่อน แม้ในต้นไตรมาส 3/2564 จะได้รับผลกระทบไปบ้างจากการล็อกดาวน์และปิดไซต์งานก่อสร้าง แต่เมื่อรัฐเริ่มผ่อนปรนมาตรการ แนวโน้มก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับและทำให้ในปลายปีนี้บรรยากาศการซื้อสินค้าจะคึกคักขึ้น แต่เราก็ไม่ประมาทเพราะยังมีความเสี่ยงที่ต้องจัดการ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสามารถเอาชนะความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นได้” นายสาธิต กล่าว 

 

ส่วนแผนงาน DRT ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ จะนำข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันทั้งแบรนด์สินค้า ‘ตราเพชร’ ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง และช่องทางการจำหน่ายทั้ง 4 ช่องทาง ได้แก่ ร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายย่อย ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ลูกค้าโครงการและตลาดต่างประเทศ ผลักดันยอดขายในปีนี้ให้เติบโต 5% ตามแผนที่วางไว้ โดยประเมินว่ากลุ่มลูกค้าโครงการจะเติบโตโดดเด่น เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์กลับมาพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติม  

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ Diamond Warehouse ผลักดันสินค้าสู่ช่องทางการขายและกระตุ้นให้ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อย เพิ่มปริมาณสินค้าคงคลังให้เพียงพอต่อการขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ต่อเนื่องถึงต้นปี 2565 ซึ่งจะช่วยบริหารความเสี่ยงด้านโลจิสติกส์ จากความไม่แน่นอนของโควิด-19