19 ตุลาคม 2564 - ถนนสีลม ย่านการค้าเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ถนน เส้นแรกของไทย หัวลำโพง เจริญกรุง และสาทร-สีลม นับเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ที่มีบทบาทมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไล่ตั้งแต่เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ อย่าง โรงแรมดุสิตธานี สวนลุมพินี โรงพยาบาล สถาบันการเงินระดับประเทศ โรงเรียนชื่อดัง และอาคารสำนักงานมากถึง 43 อาคาร แต่ละวันมีผู้คนทำงานและอยู่อาศัยในย่านนี้ไม่ต่ำกว่า 7 แสนราย ทำให้พื้นที่ 2 ฝั่งริมถนน และรัศมีโดยรอบ มีการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะ "โรบินสันสีลมเก่า" ซึ่งถูกเปลี่ยนมาเป็น “สีลมเซ็นเตอร์” ในปี 2551 อาคารสูง 24 ชั้น ตั้งอยู่บนหัวมุมถนนสีลม - พระราม 4 เป็นอีกหนึ่งตำนาน ที่คนในย่านสีลมรู้จักกันดี โดยช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ทุ่ม 1,800 ล้านบาท เข้าซื้อสิทธิการเช่าตึกสีลมเซ็นเตอร์ ประกาศลุยรีโนเวต เปิดตึกอีกครั้ง สิ้นปี 2565
นับเป็นการเปลี่ยนมือกลุ่มทุน ที่แวดวงอสังหาริมทรัพย์ให้ความสนใจอย่างมากถึงรูปแบบอาคารใหม่ที่จะออกมา เพราะเฟรเซอร์ส ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่กลับเป็นอสังหาฯใหญ่ ภายใต้พอร์ต "เจ้าสัวเจริญ" ซึ่งมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการหลายรูปแบบมานับ 10 ปี และปักหลักโครงการในย่าน–CBD มาแล้ว 5 โครงการ โดยมีสามย่านมิตรทาวน์ โครงการมิกซ์ยูสที่สมบูรณ์แบบ เป็นการการันตีศักยภาพในการพัฒนาโครงการ
เปิดโฉมมิกซ์ยูสพันธุ์ใหม่ สีลมเอจ (Silom Edge)
ล่าสุด ผู้พัฒนาโครงการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ประกาศความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ถึงรูปแบบการเข้ารีโนเวทอาคารเก่าแห่งนี้ ผ่านการเปิดตัวโครงการ Re-development ครั้งแรกของบริษัทฯ ในชื่อ “สีลมเอจ” (Silom Edge) ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1,800 ล้านบาท เตรียมเนรมิตอาคารเก่าสู่ความล้ำสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์การพัฒนาแหวกแนว “The new sandbox community in CBD” จับเทรนด์ดิจิทัลดิสรัปชั่น ชูวิถีต่างเชื่อมโยงผู้คนในทุกมิติ
" แนวคิด BE DIFFERENT. BE CONNECTED. เจาะกลุ่ม Gen ใหม่ ธุรกิจ Start-Up และแพลตฟอร์มออนไลน์ สร้างแซนด์บ็อกซ์ใจกลางกรุงเทพฯ พื้นที่เพื่อการเรียนรู้และต่อยอดธุรกิจ "
ฉีกกรอบการพัฒนาโครงการรูปแบบเก่า
นาย ธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” เผยว่า สีลมเอจ จะเป็นต้นแบบที่ปฎิวัติรูปแบบการพัฒนาอาคารแบบเดิมๆ ด้วยการคิดนอกกรอบ เปิดตัวพื้นที่แซนด์บ็อกซ์บนสุดยอดทำเล ตอบโจทย์ความต้องการของคน Gen ใหม่ในยุคดิจิทัล เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก ผู้ประกอบการธุรกิจ Start-Up และแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา
เนื่องจากเหตุการณ์โควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไปจากเดิม การซื้อสินค้าและบริการออนไลน์กลายเป็นนิวนอร์ม อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการบนโลกออนไลน์เริ่มเห็นความจำเป็นในการขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าบนโลกออฟไลน์ ดังนั้น การมีออฟฟิศหรือร้านค้าบนทำเลใจกลางกรุงเทพฯที่เดินทางสะดวก จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยสร้างแต้มต่อในการแข่งขันธุรกิจ
" รูปแบบการพัฒนาโครงการ สีลมเอจ ถูกหมุนตามกระแสโลก ในยุคโควิด ซึ่งเทคโนโลยี , Work From Anywhere หรือ แม้แต่ การนำความฮอตของสินทรัพย์ดิจิทัล เข้ามาพลิกโฉม วันนี้โครงการอสังหาฯ ที่เกี่ยวพันกับวิถีชีวิต การทำงาน การค้าขาย สิ่งสำคัญสุด ไม่ใช่แค่โลเคชั่นอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนด้วย โครงการนี้ถูกพัฒนาแบบนอกกรอบ เพื่อเทรนด์ใหม่ของไทยและของโลก เราจะเป็น sand box community แห่งใหม่ ใจกลางเมือง "
เปิด 10 ไฮไลท์ Silom Edge
สำหรับ แนวคิดโครงการ ซึ่งตั้งอยู่บนแกน “BE DIFFERENT. BE CONNECTED.” นั้น ฐานเศรษฐกิจ ได้รวบรวม 10 จุดเด่นสำคัญของโครงการ Silom Edge ไว้ ดังนี้
โครงการตั้งอยู่บนโลเคชั่นหายากขึ้น หัวมุมถนนสีลม-พระราม 4 ซึ่งเป็นทำเลที่ผสมผสานการใช้ชีวิตและทำงาน มีความหลากหลายของกำลังซื้อคนไทยและต่างชาติ
รูปแบบโครงการตอบรับ นโยบายการพัฒนาเมืองของรัฐ หลังวางเป้าให้ถนนพระราม 4 ขึ้นแท่นสู่ย่านนวัตกรรมของไทย
อาคารสำนักงาน มีพื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของแต่ละธุรกิจ รวมถึงสัญญาเช่าที่ไม่ยึดติดนาน 3 ปี ขณะพื้นที่รีเทล รองรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ ลด-ละ-เลิก อัตราค่าเช่าคิดตามตารางเมตร
ด้วยสัญญาเช่า และพื้นที่ยืดหยุ่น ต้นทุนต่ำ เปรียบเป็นแซนด์บ็อกซ์ (พื้นที่ทดลอง)ให้กับธุรกิจหน้าใหม่ แบรนด์สินค้าที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก เพื่อพัฒนาและเรียนรู้การเติบโตไปพร้อมกัน
อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เช่าและผู้ใช้บริการในทุกช่วงเวลา ตอบโจทย์การทำงานยุคดิจิทัลที่ไม่หยุดนิ่ง เปิด 11.00 น. ถึง 24.00 น. (เปรียบเสมือน Midnight Sale ทุกวัน)
รองรับทุกการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจได้อย่างคล่องตัว พร้อมสนับสนุนทุกบริษัทให้เติบโตผ่านการผสานธุรกิจจากออฟไลน์สู่ออนไลน์และกลับมาสู่ออฟไลน์ (O2O2O) เนื่องจากช่วงโควิด มีหลายคนค้นพบความสามารถตัวเอง และเปิดร้านออนไลน์ จนกระทั่งขยับขยาย แต่อีกด้าน ลูกค้าบางส่วนอยากสัมผัสสินค้าจริง หน้าร้านจึงเป็นส่วนสำคัญ เพราะเป็นพื้นที่เชื่อมโยงออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน
เชื่อมรูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยพื้นที่ที่ตอบโจทย์ในทุกมิติตลอดวัน รับเทรนด์ work life balance
จุดแข็งด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งเชื่อมต่อกับโครงการคมนาคม จุดตัดรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็ว สำหรับพนักงานออฟฟิศ และผู้ค้า - ผู้ใช้บริการ
สีลมเอจ ประกาศ จะเปิดรับชำระเงินดิจิทัลด้วยคริปโตฯ และการทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางออนไลน์
โครงการเปิดเป็นพื้นที่ sharing ของนักธุรกิจหน้าใหม่ สู่โอกาสทางธุรกิจอื่นๆในอนาคต
เจาะ ข้อมูลโครงการ สีลมเอจ (Silom Edge)
เจ้าของที่ดิน : สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
พัฒนาโครงการ: เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย
มูลค่าโครงการ: 1,800 ล้านบาท
ขนาดที่ดิน: 2 ไร่ 65 ตารางวา
พื้นที่โครงการ: 50,000 ตารางเมตร
พื้นที่ให้เช่า: 22,000 ตารางเมตร
จำนวนชั้น: 24 ชั้น
ที่ตั้งโครงการ: ถนนสีลม-พระราม 4
การเดินทาง: เข้าออกได้จาก 2 ถนนสำคัญของกรุงเทพ ถนนสีลม และถนนพระราม 4 เชื่อมตรง รถไฟฟ้า 2 สาย BTS ศาลาแดง และ MRT สีลม
ทำเลโดยรอบ: โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เชื่อมต่อ สวนลุมพินี-สวนเบญจกิติ
สถานะก่อสร้าง: 65%
เปิดโครงการ: กันยายน 2565
" คีย์ความสำเร็จของโครงการ สีลมเอจ คือ เราต้องการให้โครงการมิกซ์ยูสใหม่แห่งนี้ มีความแตกต่าง เป็นพื้นที่ทดลอง เป็นแซนบ็อกซ์ ล้มอย่างปลอดภัย และลุกขึ้นได้เร็ว ให้กับกลุ่มธุรกิจ - ผู้ค้ารุ่นใหม่ ที่อยู่ระหว่างคิดค้นนวัตกรรม หาตัวตนเพื่อการเติบโตในอนาคต ผ่านการลงทุนน้อย มีความเสี่ยงต่ำ ด้วยอัตราค่าเช่าที่ต่ำกว่าราคาตลาด 30-40% ขณะพื้นที่รีเทล มีความยืดหยุ่น เพื่อให้ผู้ประกอบการคำนวณต้นทุนได้ชัดเจน แนวทางนี้ จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ธุรกิจที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากโควิด กลับเข้ามาในตลาดได้ ขณะศักยภาพของทำเล จะดึงดูดกำลังซื้อมหาศาลให้กลับมาหลังเปิดประเทศ เศรษฐกิจฟื้น ส่วนในแง่ผลตอบแทนทางธุรกิจนั้น โครงการนี้จะต่อยอดความยั่งยืนในการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ เพราะจะเข้ามาเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กลุ่มธุรกิจอสังหาฯ เพื่อพาณิชยกรรม ได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 300 ล้านบาท " นาย ธนพล ศิริธนชัย กล่าวสรุป