ในปี 2565 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ เปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ให้ประชาชนเข้าจับจองอย่างต่อเนื่อง โดยชูจุดขายทั้งทำเลที่ตั้งมีศักยภาพ พร้อมกับ “ราคา” ที่เหมาะสม เพิ่มโอกาสให้ประชาชนสามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้นทั้งนี้ นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้การเคหะแห่งชาติ ได้เปิดโครงการ
ให้ประชาชนได้เป็นเจ้าของในหลากหลายทำเล ซึ่งเป็นทำเลที่ดีมีศักยภาพ เริ่มที่ “บางปู” ปัจจุบันมี 2 โครงการ ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ติดเมืองโบราณ ใกล้สถานตากอากาศบางปู เดินทางสะดวก อยู่ในแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า ได้แก่ โครงการสมุทรปราการ 4 (บางปู) จัดสร้างเป็นอาคารชุด 4 ชั้น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ห้องประมาณ 32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 550,000 บาท วางเงินทำสัญญาเพียง 799 บาทเท่านั้น และโครงการการ์เด้นวิลล์ บางปู ทาวน์โฮม
2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เนื้อที่ประมาณ 24 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 2,500,000 บาท วางเงินทำสัญญา 18,000 บาท โดยปัจจุบันทั้ง 2 โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบ กำหนดเปิดขายระหว่างวันที่ 11-20 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศูนย์ชุมชนโครงการสมุทรปราการ 4 (บางปู)
นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติ ยังได้เปิดให้จับจองโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน ฉะเชิงเทรา แปลงยาว 1 จัดสร้างเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 21 ตร.ว. 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เปิดขายราคา (เงินสด) 755,000 บาท ระหว่างวันที่ 14-24 กุมภาพันธ์ 2565 ณ สำนักงานขายที่ตั้งโครงการ จองก่อนได้ก่อนเพียง 799 บาท พร้อมเตรียมเอกสารที่ใช้ในวันทำสัญญา ประกอบด้วย สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และหนังสือรับรองเงินเดือน
นายทวีพงษ์ กล่าวว่า เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของบ้านการเคหะแห่งชาติได้ง่ายขึ้น ปีนี้การเคหะแห่งชาติ ยังได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือ “ลูกค้าใหม่” หนึ่งในนั้นคือ อัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อจากธนาคาร สามารถยื่นขอสินเชื่อจากโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย
กรณีบุคคลทั่วไป อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-4 ปี อยู่ที่ 1.5% กรณีกลุ่มเปราะบางหรือบุตรที่ซื้อบ้านในโครงการที่พ่อแม่อาศัยอยู่ อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-5 ปี อยู่ที่ 1.5% โดยระยะเวลาการทำสัญญาเช่าซื้อ 40 ปี เมื่อรวมกับอายุผู้เช่าซื้อต้องไม่เกิน 70 ปี หรือสามารถยื่นขอสินเชื่อทำสัญญาเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติได้โดยตรง
กรณีบุคคลทั่วไป อัตราดอกเบี้ย ปีแรก 4% กรณีกลุ่มเปราะบางหรือบุตรที่ซื้อบ้านในโครงการที่พ่อแม่อาศัยอยู่ อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 ปี อยู่ที่ 4% โดยระยะเวลาในการทำสัญญาเช่าซื้อ 30 ปี เมื่อรวมกับอายุผู้เช่าซื้อต้องไม่เกิน 70 ปี
การเคหะแห่งชาติ มีภารกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง และกลุ่มเปราะบาง เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่าย ซึ่งเป็นเป้าหมายของการเคหะแห่งชาติ ที่มุ่งมั่นให้ทุกคนสามารถมีบ้านเป็นของตัวเอง สร้างความมั่นคงในด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนคนไทยอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์”