19 พฤษภาคม 2565 - ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไทย (REIC) สรุป 10 แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ ที่อยู่อาศัย ปี 2565 ว่า ยังเผชิญกับทั้งปัจจัยลบที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อค่าครองชีพ และเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อ หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ขณะโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ และการโอนกรรมสิทธิ์ กลับมาทิศทางเปลี่ยนแปลงไป ในกลุ่มคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ รวมถึง บ้านมือสอง จากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดิน และการตอบรับของผู้ซื้อ ดังนี้
10 ปรากฏการณ์อสังหาฯไทย ปี 2565
- การเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ทั้งบ้านแนวราบ และคอนโดมิเนียม จะเพิ่มมากข้นกว่าปี 2564 โดยคอนโดมีสัดส่วนที่สูง เนื่องจากมีสต็อกลดลง และ ราคาที่ดินแพงขึ้น
- บ้านแนวราบยังคงได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อบ้านมาก แต่ประเภททาวน์เฮ้าส์จะยังคงมีอุปทานคงเหลือในตลาดมาก
- คอนโดมิเนียมเริ่มฟื้นตัว จากผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและการซื้อเพื่อลงทุนมากขึ้น อาจจะเป็นการลงทุนใน 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และกลุ่ม ลักชัวรี
- โครงการที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นใหม่อาจปรับลดโปรโมชั่นส่วนลดและของแถมลงบ้างเพื่อรักษาราคาประกาศขายให้อยู่ใกล้เคียงกับโครงการในปัจจุบัน
- บ้านมือสองที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากค่าธรรมเนียมและมีราคาและทำเลที่สอดคล้องกับความสามารถของกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มรายได้น้อยปานกลาง คาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองจะขยายตัวต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะบ้านราคาต่ำ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจบ้านมือสอง
- ภาวะสงครามรัสเซีย - ยูเครนที่ยืดเยื้อ จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และภาวะค่าครองชีพของประชาชน
- การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น และส่งผลต่อความต้องการซื้ออสังหาฯได้
- บ้านมือสอง อาจเป็นสินค้าทดแทนบ้านใหม่ ผู้ประกอบการบ้านใหม่ต้องให้ความสำคัญ สนใจศึกษาก่อนการพัฒนา
- ราคาวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้น การขาดแรงงาน อาจส่งผลให้การก่อสร้างล่าช้า แผนการส่งมอบล่าช้า ซึ่งอาจจะส่งผลต่อปริมาณการโอนกรรมสิทธิ์ และการระบาย backlog ของผู้ประกอบการอสังหาฯ
- จากภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น ขณะที่การฟื้นตัวรายได้ช้า หากมีการเกิด NPL เพิ่มขึ้น สถาบันการเงินอาจมีนโยบายสินเชื่อที่เข้มงวดต่ออีกใน ปี 2565 จะส่งผลต่อกลุ่มผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่มีความไม่แน่นอน ไม่สามารถขอสินเชื่อได้ แต่สถาบันการเงินอาจจะขยายสินเชื่อรีไฟแนนซ์เพิ่มขึ้น