มติที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้พิจารณาแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาการใช้ที่ดินเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์ จากกรณีที่เอกชนยินยอมให้กทม.ใช้ที่ดินเพื่อสาธารณประโยชน์ โดยจะได้รับการยกเว้นจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ กระทรวงการคลัง ประกาศ และจากข้อมูลที่ผ่านมา พบว่า
หน่วยงานมิได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินที่รับบริจาคดังกล่าว เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ดังนั้น ที่ประชุมฯจึงแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการรับที่ดินเอกชนเพื่อสาธารณะประโยชน์ หารือความคุ้มค่าและค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ให้สอดคล้องกับระเบียบและข้อกฎหมายปัจจุบัน เพื่อให้เกิดการพิจารณาอย่างรอบคอบ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับ กทม.
“เรื่องเอกชนให้ที่สาธารณะเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว หรืออาจจะเพื่อเป็นการลดภาษี การที่ กทม.รับมอบที่ดิน ก็ต้องสูญเสียรายได้จากภาษีที่ดินด้วย ดังนั้น กทม.ต้องคิดให้รอบคอบ จึงให้ตั้งคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การรับมอบ และกลั่นกรองให้คุ้มกับประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ”นายชัชชาติ กล่าว
พร้อมระบุว่า กทม. ขอขอบคุณผู้ที่ต้องการจะบริจาคพื้นที่ให้ ทั้งพื้นที่ทั่วไป และพื้นที่ที่เป็นบึงน้ำ ซึ่งขณะนี้ กทม.จะรับเรื่องไว้ก่อน และให้คณะกรรมการพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตามมีที่ดินว่างเปล่าไม่ทำประโยชน์ในเขตกทม.ค่อนข้างมากหลายแปลงใช้วิธีปรับเป็นพื้นที่การเกษตรลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแต่หากให้กทม.ใช้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์เช่นสวนสาธารณะ จะไม่มีผลกระทบต่อภาระภาษีที่ดิน แต่ในทางกลับกันกทม.อาจเรียกเก็บภาษีที่ดินไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย