“รามอินทรา”ทำเลศักยภาพทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานครที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจพัฒนาที่อยู่อาศัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยมีจุดเด่นเส้นทางคมนาคมสำคัญทั้งถนนรามอินทรา รถไฟฟ้าสายสีชมพู ทั้งยังใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และวิ่งออกนอกเมืองไปยังภาคตะวันออกของประเทศ
จากเมืองขยาย วิกฤตจราจรคับคั่ง ส่งผลให้กรุงเทพมหานครวางแผนระยะยาว ขีดแนวโครงข่ายลงในผังเมืองรวม ทั้งเวนคืนตัดถนนใหม่ ขยายเขตทาง ทะลวง ตรอกซอก ซอย เชื่อมทะลุถึงกัน รองรับประชากรที่เพิ่มขึ้นและที่มีเสียงคัดค้านอื้ออึง ในขณะนี้หนีไม่พ้น
โครงการเวนคืนก่อสร้าง ถนนรามอินทราซอย19-ถนนเทพรักษ์ แม้ระยะทางเพียงสั้นๆ2.2กิโลเมตร เขตทางกว้าง 30เมตร 6ช่องจราจร แต่จากการบอกเล่าของคนในกทม.ยืนยันว่า มีบ้านเรือนและที่ดินถูกกระทบเกือบ100แปลง
ที่สำคัญแนวเส้นทางวิ่งผ่ากลาง “กฤษดานคร”หมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ บริเวณสนามกีฬาเทพรักษ์ทำให้มีบ้านหรูถูกกระทบไม่ต่ำกว่า10หลังคาเรือน สำหรับทางออกกทม.ได้พิจารณาเบี่ยงแนวให้อ้อมพ้นหมู่บ้านดังกล่าวตามการเรียกร้องของลูกบ้าน
แนวสายทางมีจุดเริ่มต้นบริเวณสามแยกลาดปลาเค้า ถนนรามอินทรา หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ปากทางถนนรามอินทราแยกลาดปลาเค้า มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือขนานระหว่างซอยรามอินทรา 17 และซอยรามอินทรา19 ไปบรรจบถนนเทพรักษ์
ช่วยบรรเทาความหนาแน่นของการจราจรในพื้นที่เขตบางเขนและเขตสายไหม ทั้งนี้ถนนเทพรักษ์เป็นถนนที่ตัดขึ้นในสมัยของหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ตั้งแต่บริเวณถนนพหลโยธิน50ถึง ถนนรัตนโกสินทร์สมโภชและอยู่ระหว่างดำเนินการในช่วงต่อไป
โครงการรามอินทรา19-ถนนเทพรักษ์ หากแล้วเสร็จนอกจากจะช่วยระบายการจราจรบนถนนสายหลักแล้วยังเปิดหน้าดินเป็นทำเลทองแห่งใหม่สำหรับบ้านจัดสรร ที่ผู้ประกอบการหมายตา แนวโน้มราคาที่ดินขยับขึ้น2.5-3เท่า
สอดรับกับนายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ประเมินว่าราคาที่ดินย่านดังกล่าวปัจจุบันเฉลี่ยตารางวาะ5หมื่นบาทและจะขยับสูงขึ้นอีก
สำหรับการพัฒนาหากพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมจะขายในราคา5หมื่นบาทต่อตารางเมตร ขึ้นไป ขณะบ้านจัดสรรสามารถอัพราคาขายได้3-4เท่าตัว เมื่อเทียบกับก่อนมีถนนสายใหม่
ที่ผ่านมา ( เดือนพฤษภาคม 2565) คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติ เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในเขตท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน และแขวงคลองถนน เขตสายไหม ของกรุงเทพมหานคร(กทม.)
เพื่อก่อสร้างถนนเชื่อมระหว่างถนนรามอินทรากับถนนเทพรักษ์ ประมาณการค่าจัดกรรมสิทธิ์ 1,321 ล้านบาท ขนาดเขตทางกว้าง 30 เมตรหรือ6ช่องจราจร ยาวประมาณ 2,200 เมตร(2.2กิโลเมตร) เพื่อแก้ปัญหาจราจร
โดยงบประมาณดำเนินการเป็นของกทม.ทั้งหมดและเริ่มต้นเข้าสำรวจที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายในแนวเขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาภายใน 120 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ใช้บังคับและคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดใช้เส้นทางได้ปี2567
อนาคตถนนเส้นนี้ จะเป็นอีกทำเลทองใหม่บ้านจัดสรรที่อยู่อาศัยชั้นดีที่น่าจับตายิ่ง !!!