กูรูอสังหาฯ ผ่า ปัจจัยบวก - ลบ อสังหาฯยังน่าลงทุนหรือไม่ ?

21 พ.ย.2565 - นาย สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA) ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงโอกาสการลงทุน และ แนวโน้มภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ปี 2566 ในเวที Property Focus : สินทรัพย์มั่นคง ลงทุนมั่งคั่ง งาน สัมมนา WEALTH FORUM ลงทุนอย่างไรให้รวย #ปี3 ซึ่ง จัดโดย สื่อในเครือ เนชั่นกรุ๊ป ว่า ที่ผ่านมา ภายใต้ ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด ตลาดลงทุนอสังหาฯ เผชิญ ปัจจัยลบหลายประการ เช่น ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรง , น้ำมัน ส่งผล ราคาสินค้าแพงขึ้น เกิดปัญหาเงินเฟ้อ , คนไทยขาดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอย  ขณะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป ทำให้ ภาพใหญ่ ดูเหมือนว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนอสังหาฯไม่น่าสนใจเหมือนเดิม 

แต่อย่างไรก็ตาม พบ การลงทุนในภาคอสังหาฯ ยังถูกขับเคลื่อน แต่ถูกพลิกโฉม เปลี่ยนโหมด จากการหว่านลงทุน ไปสู่ การเลือกลงทุนที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทั้งในแง่รูปแบบของโปรดักส์ และ ทำเล เช่น คอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัย ซึ่งพบมีอัตราการเข้าไปลงทุนอย่างน่าสนใจ บางโครงการเปิดใหม่ และ สามารถปิดการขายได้ในเวลารวดเร็ว ในราคาต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อตร.ม. หรือ ยูนิตละไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นต้น 

ทั้งนี้ คาดการณ์แนวโน้ม การลงทุนอสังหาฯ ช่วงปี 2566 ภายใต้สมมุติฐานเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดี จีดีพีประเทศ มากกว่า 3% ต่อปี อาจทำให้ การลงทุนอสังหาฯ กลับมาคึกคัก จากทฤษฎีความสัมพันธ์ : เศรษฐกิจดี อสังหาฯโต เพราะ คนจะมีรายได้เพิ่มขึ้น และ นำมาลงทุนมากขึ้นนั่นเอง 

นายสุรเชษฐ์ ประเมินว่า ปี 2566 เป็นปีที่น่าจะได้เห็น ปัจจัยเป็นบวกมากขึ้น และส่งผลดีต่อประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้ ตลาดคอนโดฯ มีแนวโน้ม การซื้อ-ขาย ดีกว่าปี 2565 อย่างแน่นอน โดยในแง่นักลงทุนนั้น บางทำเล ยังมีความน่าสนใจในการเข้าไปลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง ในลักษณะการลงทุนระยะยาว เพราะ การเก็งกำไรระยะสั้นเช่นในอดีต มีความเสี่ยงเกินไป และขอให้หลีกเลี่ยงทำเลที่มีซัพพลายคงเหลือสะสมเป็นจำนวนมาก คาด คอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 1 แสนบาทต่อ ตร.ม. หรือ กลุ่มราคา ไม่เกิน 3.5 ล้านบาทต่อยูนิต ยังน่าสนใจ ขณะ ราคามากกว่า 3.5 ล้านบาทต่อยูนิต คาดมีทิศทางเติบโตดีขึ้นเช่นกัน  

อย่างไรก็ดี ก็ยังมีปัจจัยลบ ให้เฝ้าระวังที่จะส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจ และ ตลาดอสังหาฯ เช่นกัน  อย่าง ความขัดแย้งในหลายภูมิภาคของโลก ,ความผันผวนของราคาน้ำมัน ,การฟื้นตัวของซัพพลายใหม่ๆ และ ที่สำคัญ คือ ความเข้มงวดในระบบขอสินเชื่อ และ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ,ราคาที่อยู่อาศัย ที่อาจแพงขึ้นจากต้นทุน 8-10% รวมไปถึง การยังไม่กลับเข้ามาของกลุ่มกำลังซื้อใหญ่ อย่าง ชาวจีน ทำให้การลงทุนอสังหาฯ ในช่วงนี้ต่อเนื่องปีหน้า อาจเหมาะสำหรับ ผู้ที่มีเงินสด และ มีความสามารถในการขอสินเชื่อได้เท่านั้น 

"เปรียบเทียบ ภาพรวมการลงทุนกับสินทรัพย์อื่นๆนั้น อสังหาฯ กับ ทองคำ ก็เรียกว่า ยังอยู่ในจุดที่ปลอดภัย แม้ปัจจุบัน การขายต่อ อาจช้าลงกว่าอดีต แต่อัตราผลตอบแทน ยังมีแนวโน้มน่าสนใจ "