25 พ.ย.2565 - นับถอยหลัง ขึ้นศักราชใหม่ ปี 2566 โดยคนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ต่างเชื่อกันว่า สัญญาณ ภาพรวมเศรษฐกิจ ที่ฟื้นตัวสูงสุด ในรอบ 4 ปี จากหลากหลายปัจจัย ซึ่งส่งสัญญาณชัดเจน ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง 2565 เป็นต้นมานั้น จะทำให้ สถานการณ์ธุรกิจคอนโดมิเนียมในปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เจาะมุมมอง นายพีระพงศ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย ในงานสัมนาใหญ่ประจำปี ในหัวข้อ “ผ่ากลยุทธ์ธุรกิจคอนโดมิเนียม ปี 2023”
นายกสมาคมอาคารชุดไทย ล้วงลึกสถานการณ์คอนโดฯ ในปีหน้า ว่า ภายใต้คาดการณ์ การเติบโตของเศรษฐกิจไทย หรือ จีดีพี จะขยายตัวราว 4.7% ส่วนจีดีพีโลก ขยายตัว 2.7% (คาดการณ์ของ IMF และ ธ.กรุงไทย) จะส่งผลต่อทิศทางการฟื้นตัวของตลาดคอนโดฯ ซึ่งปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจนั้น ประกอบไปด้วย
อย่างไรก็ดี นายพีระพงศ์ ประเมินว่า ทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกใน ปี 2566 ยังมีความเสี่ยง หรือ ปัจจัยลบหลายประการ ที่ต้องติดตาม และอาจทำให้เศรษฐกิจไม่ขยายตัวตามคาดได้เช่นกัน
ปัจจัยลบเศรษฐกิจโลก
ปัจจัยลบเศรษฐกิจไทย
ขณะทิศทางอสังหาริมทรัพย์ปี 2566 โดยเฉพาะ ตลาดคอนโดฯ นั้น อาจประเมินได้จาก ข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย (กทม.-ปริมณฑล) ประเภทนิติบุคคล พบ หน่วยการโอนฯประเภทนิติบุคคลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2% ขณะศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าการโอนฯ ใน กทม-ปริมณฑล ปี 2566 จะอยู่ที่ 1.75-1.82 แสนหน่วย (-2.8% ถึง +1.1%)
ส่วนยอดขายรวมที่อยู่อาศัยใหม่ กทม.-ปริมณฑล ปี 2563 ถึง ช่วง ครึ่งแรกของปี 2565 มีแนวโน้มฟื้นตัว ราว 2% ขณะยูนิตเปิดใหม่ ครึ่งปีแรก 2565 เติบโตเพิ่มขึ้นจากโครการเล็ก ระดับราคากลุ่มล่างเป็นหลัก ซึ่งเมื่อประเมินปัจจัยที่จะกระทบต่ออสังหาฯ ปี 2566 นั้น มีทั้งปัจจัยบวก และ ปัจจัยลบ ที่ต้องร่วมพิจารณาด้วย ดังนี้
ปัจจัยบวกอสังหาฯ
1.การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว
2.เศรษฐกิจฟื้นตัวหลังโควิด
ปัจจัยลบอสังหาฯ
1.แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น
2.ต้นทุนค่าก่อสร้างทรงตัวในระดับสูง อาจจะมีโอกาสทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง
3.หนี้ครัวเรือนสัดส่วนสูง
4.การยุติมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อกระตุ้นอสังหาฯ