ในช่วงที่แวดวงอสังหาริมทรัพย์ต่างรับศึกหนักกับวิกฤติโควิด-19 แต่ บริษัท เอส ซี แกรนด์ จำกัด บริษัทน้องใหม่ในเครือ “SEACON” ของตระกูล “ซอโสตถิกุล” กลับเดินสวนกระแส ผงาดธุรกิจ ให้บริการสร้างบ้านกับลูกค้าที่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล
ที่มีที่ดินเป็นของตนเองและ ต้องการสร้างบ้านที่ทันสมัย ประหยัดพลังงาน ขณะนี้ธุรกิจเปิดมาครบ 2 ปีแล้ว เป้าหมายที่เคยปักธงไว้อย่างสวยหรูเป็นไปตามเป้าหรือไม่และทิศทางปี2566 ธุรกิจจะไปทางไหน
“ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ นายกอบชัย ซอโสตถิกุล ผู้ก่อตั้งบริษัท เอส ซี แกรนด์ จำกัด และผู้ริเริ่มธุรกิจรับสร้างบ้านและหมู่บ้านจัดสรรรายแรกของประเทศไทย และนายธีรพงศ์ นคราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส ซี แกรนด์ จำกัด กำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างน่าสนใจ
นายธีรพงศ์ กล่าวว่าถ้านับปีที่รับรู้รายได้เอส ซี แกรนด์ จะเริ่มในปี2564 จนถึงขณะนี้รับรู้รายได้ 2 ปี แล้วโดยรวมประสบผลสำเร็จเกินคาดมาก ทั้งที่ต้องเผชิญปัจจัยลบรอบด้าน เนื่องจากเป็นแบรนด์น้องใหม่ บริษัทจึงได้มีความพยายามอย่างมากในการสื่อสารการตลาดเพื่อเพิ่มการรับรู้ที่มีต่อแบรนด์
เมื่อดูข้อมูลจริงๆจะพบว่ายอดบ้านสร้างในช่วงโควิดเองก็ไม่ได้ลดลงจากช่วงปกติ เพียงแต่ไม่ได้เติบโตขึ้น ในเมื่อขนาดของตลาดไม่ได้ลดลง บริษัทใหม่อย่างเราที่มีพื้นฐานความรู้และประสบการณ์ยาวนาน เข้าสู่ตลาดเดิมด้วยจุดขายใหม่คือ
บ้านอัจฉริยะที่ควบคุมผ่านอุปกรณ์ภายในบ้านด้วยระบบ Internet ให้การใช้ชีวิตที่มีสไตล์และสะดวกสบายกว่าบ้านแบบดั้งเดิม ซึ่งในยุค Internet of things แบบนี้เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป แถมคนไทยมีการเรียนรู้และตอบรับวิทยาการสมัยใหม่ๆ ได้รวดเร็วเป็นชีวิตปกติประจำวัน
ดูได้จากยอดการ Shopping Online, การชำระเงินผ่านแอพลิเคชั่นต่างๆ เป็นวิถีชาวบ้านไปแล้ว เลยทำให้ยอดขายของบริษัทฯ ประสบความสำเร็จเกินคาดไปพอสมควร ส่วนในอนาคตส่วนตัวคิดว่ายอดบ้านสร้างเองในไทยจะเติบโตต่อไป อย่างน้อย 10-20 ปี
มองภาพรวมธุรกิจอสังหา ปี66
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส ซี แกรนด์ จำกัด ยังคาดว่าทิศทางปี2566 อสังหาแนวราบจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โควิดได้ทำให้ธุรกิจรับสร้างบ้านเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะผู้คนเริ่มมองหาพื้นที่ส่วนตัวที่กว้างขวาง
สอดคล้องกับข้อมูลจากการแถลงข่าวหลังจบงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2022 ที่ผ่านมา ของนายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่เผยยอดจองในงาน 5 วันทะลุ 4 พันล้านบาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 18 ปี
มียอดผู้ร่วมงานเพิ่มขึ้น 20% โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบบ้านประหยัดพลังงานได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างมาก และมีระดับราคายอดจองสั่งสร้างที่ 2.5-5 ล้านบาท คิดเป็น 40.2% รองลงมาคือ 5-10 ล้านบาท คิดเป็น 34% และราคา 10-20 ล้านบาท คิดเป็น 15%
ปี66โตต่อเนื่องยอดรวมทะลุเป้า
นายธีรพงศ์ กล่าวอีกว่าบริษัทจดทะเบียนเริ่มกิจการเมื่อปลายปี 2563 แต่บริษัทเริ่มกิจกรรมขายและทำการตลาดต้นปี 2564 จนถึงสิ้นปี 2565 มีลูกค้าจองทั้งสิ้น 50 หลัง มูลค่ารวมประมาณ 500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายตอนเริ่มกิจการที่ตั้งไว้ว่าเมื่อสิ้นปีที่ 2 ที่ดำเนินกิจการ จะมียอดขายรวม 300 ล้านบาท ถือว่ายอดขายเติบโตเกินคาดมาก
“จะเห็นว่าบริษัทเปิดมาครบ 2 ปี ยอดขายสะสมตอนนี้ได้แล้วประมาณ 450 ล้านใกล้ๆ 500 ล้านแล้ว และอยากจะทำข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเราทำหลายอย่างประสบความสำเร็จเช่นยอดขายได้ค่อนข้างเยอะ และการสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านก็เข้าได้อย่างรวดเร็วเพราะทำธุรกิจอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา น่าเชื่อถือประกอบกับยอดขายได้ตามเกณฑ์กำหนดของสมาคมฯ”
สำหรับปี2566ยังคาดการณ์ยอดขายพร้อมตั้งข้อสังเกตว่า บริษัท เอสซี แกรนด์ ตั้งเป้าว่าปี 2566 จะเติบโต 20% คิดเป็นยอดขายประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี และถ้ารวมยอดขายตั้งแต่ปี2564-2566บริษัทจะมียอดขายรวมราว 800 ล้านบาท จากข้อมูลต่างๆแสดงให้เห็นว่าในปี 2566 ตลาดรับสร้างบ้านจะเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นได้แน่นอน และบริษัท เอสซี แกรนด์ก็มีแบบบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ตรงกัน
ชูจุดเด่นเป็นแบบบ้านประหยัดพลังงานที่มาพร้อมระบบอัจฉริยะ รองรับระบบโซล่าเซลล์และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.5 ล้านบาทก็สามารถเป็นเจ้าของบ้านไฮเทคสุดหรูได้ ส่วนผู้ที่ต้องการบ้านหลังใหญ่ ก็มีแบบบ้านครอบคลุมไปจนถึง 25 ล้านบาท และในอนาคตอันใกล้นี้บริษัทจะมีการเปิดตัวแบบบ้านอัจฉริยะสุดหรูหลังใหญ่จัดเต็ม
สเปคดีเยี่ยม พรั่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันภายในบ้าน เรียกว่าเป็น “NO. 1 SC GRAND SUPER LUXURY INTELLIGENT HOME” แบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในตลาดรับสร้างบ้านออกมาให้เลือก ส่วนรายละเอียดต้องรอติดตาม
“เดิมที ทางบริษัทคิดจะเปิดตัวธุรกิจตั้งแต่ช่วงแรกที่เปิดบริษัทในปี 2563 แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิดเริ่มระบาดในประเทศไทยพอดี จึงทำให้เลื่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการมาเรื่อยๆ ขณะนี้เราอยู่ระหว่างการเตรียมงานเปิดตัวบริษัทในเดือนมกราคม 2566 โดยพิธีเปิดอย่างเป็นทางการที่สำนักงานใหญ่ย่านบางแค”
เอสซี แกรนด์ บุกเบิกมิติใหม่
ด้านนายกอบชัย กล่าวเสริมว่า บริษัท เอสซี แกรนด์ เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ที่มองไปถึงอนาคตแห่งการอยู่อาศัย ที่ผ่านมา เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านรายแรกในประเทศไทย มาถึงวันนี้ ก็ ตั้งใจให้ เอสซี แกรนด์ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่บุกเบิกมิติใหม่ให้กับธุรกิจรับสร้างบ้าน
ชูจุดเด่นบ้านหรูอัจฉริยะรายแรกของวงการรับสร้างบ้าน ด้วยมาตรฐานการก่อสร้างสูงเช่นเดียวกันกับบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำและให้มากกว่าด้วยระบบอัจฉริยะที่ผสมผสานเทคโนโลยีลํ้าสมัย
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ และยังไม่หยุดพัฒนาวงการธุรกิจฯ เพื่อสร้างประโยชน์แก่ประเทศต่อไป เช่นที่ทำต่อเนื่องมาตลอดจากอดีตถึงปัจจุบัน แผนธุรกิจในอนาคตผู้บริหาร
มีแนวคิดเรื่องการเติบโตแบบยั่งยืน มองธุรกิจเป็นเกมส์ยาวที่เล่นซํ้าไปเรื่อยๆ การจะทำได้เช่นนั้น ต้องทำด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายได้ประโยชน์อย่างยุติธรรม
ดังนั้นระยะกลาง คือภายใน 5 ปีจะสร้างยอดขายอย่างมั่นคง ระมัดระวังและเตรียมความพร้อมองค์กรในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาบุคลากร และพัฒนากระบวนการทำงาน โดยกำหนดเป้าหมาย 500 ล้านบาทต่อปีในปีที่ 5 หลังจากนั้นจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 2 ปี
เตรียมความพร้อมแปรรูปเป็นบริษัทจำกัดมหาชน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กระจายความเป็นเจ้าของแก่พนักงานและบุคคลทั่วไปในวงกว้าง รวมถึงการระดมทุนขยายกิจการเพื่อทำธุรกิจในระยะยาวตามเจตนาแรกเริ่มของผู้ก่อตั้งต่อไป