6 ม.ค.2565 - ยังเป็นประเด็นใหญ่ ที่สังคมให้ความสนใจสูงสุด กรณี การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. จัดจ้างเอกชน 33 ล้านบาท เพื่อเปลี่ยนป้ายชื่อ 'สถานีกลางบางซื่อ' เป็น 'สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์' อีกทั้ง สื่อสังคมออนไลน์ มีการตั้งข้อสังเกต ว่าเมื่อแจกแจงงบประมาณดังกล่าว คาดในการปรับปรุงป้ายชื่อขนาดใหญ่ ตกราคาต่อตัวอักษรมากถึงตัว 5 แสนบาท ซึ่งแพงเกินความจำเป็น
ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ออกชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยระบุ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง หลังจาก พบยังมีผู้ที่แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อโซเชียลมีเดียคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงในหลายประเด็น ดังนี้
เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ รวม 112 ตัวอักษร ไม่ใช่ 56 อักษร
รฟท. ชี้แจงว่า กรณีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยใช้งบประมาณปรับปรุงป้ายชื่อสูงถึงตัวอักษรละ 5 แสนบาทนั้น ถือเป็นเรื่องที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงเป็นอย่างมาก เนื่องจากโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ดังกล่าว ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนป้ายชื่อจำนวน 56 อักษรอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกต แต่ในความจริงมีการปรับปรุงป้ายชื่อมากถึง 112 ตัวอักษร (110 ตัวอักษร กับ 2 ตราสัญลักษณ์ฯ) เพราะมีการติดตั้งป้ายชื่อสถานีอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งบริเวณโดมด้านหน้าสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก และยังมีจำนวนตัวอักษรที่เพิ่มขึ้นจากป้ายเดิมอีกด้วย
สำหรับรายละเอียดของการติดตั้งตัวอักษร ได้แบ่งเป็นตัวอักษรภาษาไทยฝั่งละ 24 ตัวอักษร อักษรภาษาอังกฤษฝั่งละ 31 ตัวอักษร และตราสัญลักษณ์การรถไฟฯ ฝั่งละ 1 ตราสัญลักษณ์ ซึ่งหากรวมทั้ง 2 ฝั่ง จะมีการติดตั้งอักษรภาษาไทยรวมถึง 48 ตัวอักษร อักษรภาษาอังกฤษรวม 62 ตัวอักษร และ 2 ตราสัญลักษณ์ของการรถไฟฯ รวมทั้งสิ้น 112 ตัวอักษร (110 ตัวอักษร กับ 2 ตราสัญลักษณ์ฯ)
งบประมาณ 33 ล้าน เปลี่ยนป้าย รวมขอบเขตค่าใช้จ่ายอื่นด้วย
ที่สำคัญการกำหนดขอบเขตของงานโครงการฯ ในวงเงิน 33 ล้านบาทนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ค่าใช้จ่ายการปรับปรุงป้ายชื่อตัวอักษรเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงงานรื้อถอน การเปลี่ยนผนังกระจก โครงผนังกระจกอะลูมิเนียม การจัดทำระบบไฟแสงสว่าง ค่าการออกแบบด้านวิศวกรรมโครงสร้างและรูปแบบการติดตั้งที่มีขอบเขตงานที่เกี่ยวกับการรื้อถอนของเดิมและติดตั้งของใหม่ที่กระทบต่อโครงสร้างของอาคารสถานีที่ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว ตลอดจนมีการกำหนดการรับประกันความชำรุดบกพร่องภายในขอบเขตงานอีก 365 วันด้วย รวมถึงความรับผิดชอบบำรุงรักษางานระบบไฟแสงสว่าง ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจะจ่ายให้ แต่ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบตลอดระยะเวลาการรับประกันผลงาน โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
เปิด 4 ส่วนงานสำคัญ เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ
งานส่วนที่ 1 งานโครงสร้างวิศวกรรม
งานส่วนที่ 2 งานสถาปัตยกรรม
งานส่วนที่ 3 งานออกแบบรายละเอียดพร้อมรายการคำนวณ
งานส่วนที่ 4 งานเผื่อเลือก (Provisional Sum)
ดังนั้น เห็นได้ว่าการตั้งข้อสังเกตที่ระบุว่า การรถไฟฯ ใช้งบประมาณในการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในราคาตัวอักษรละ 5 แสนบาท จึงไม่ใช่ความจริง เพราะในข้อเท็จจริงมีการติดตั้งตัวอักษรมากถึง 112 ตัวอักษร ไม่ใช่ 56 ตัวอักษร อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายการดำเนินงานอื่น ๆ เข้าไปรวมอยู่ในเนื้องานอีกจำนวนมากด้วยและที่สำคัญราคาการเปลี่ยนป้ายชื่อดังกล่าวยังสอดคล้องกับราคาประมาณการของชมรมป้าย ซึ่งประเมินค่าใช้จ่ายตัวอักษร
เนื่องจากขนาดตัวอักษรป้ายชื่อมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ มีความสูงถึง 3 เมตร กว้าง 2.6 เมตร หนา 40 เซนติเมตร มีความยาวของป้ายใหม่รวม 60 เมตร ตามจำนวนอักษรของชื่อพระราชทาน ในส่วนที่เป็นอักษรภาษาอังกฤษ มีความสูง 2.1 เมตร กว้าง 2.2 เมตร หนา 40 เซนติเมตร อีกทั้งยังผลิตด้วยวัสดุพิเศษ เป็นอะคริลิกสีขาวนม ยกขอบ ซึ่งมีความทนทานต่อแดดและฝน รวมถึงซ่อนไฟแสงสว่างไว้ด้านหลังป้ายด้วย ขณะที่ตราสัญลักษณ์ของการรถไฟฯ ยังมีความสูงถึง 7 เมตรเช่นกัน
รฟท.โต้ จัดจ้างตั้งงบ 33 ล้าน เอื้อเอกชน ยันกระบวนการโปร่งใส
ส่วนประเด็นการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความเหมาะสม ในการใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงนั้นการรถไฟฯ ขอชี้แจงเหตุผลที่ต้องจ้างโดยวิธีดังกล่าว เนื่องจากการจ้างปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นการจ้างปรับปรุงงานก่อสร้างที่ได้ดำเนินงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้วและยังอยู่ระหว่างการรับประกันความชำรุดบกพร่องของกิจการร่วมค้าเอส ยู ประกอบด้วย บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซิโน-ไทยเอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างสถานี
ซึ่งงานจ้างปรับปรุงฯ นี้ มีขอบเขตงานที่เกี่ยวกับการรื้อถอนของเดิมและติดตั้งของใหม่ที่กระทบต่อโครงสร้างของอาคารสถานีที่ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว ย่อมส่งผลต่อ
การรับประกันความชำรุดบกพร่องของงาน การรถไฟฯ จึงได้กำหนดขอบเขตของงานให้ผู้รับจ้างต้องดำเนินงานภายใต้เงื่อนไข ข้อกำหนด รายการจำเพาะ ตามขอบข่ายวัตถุประสงค์ ของโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ ๑ ซึ่งมีเพียงบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข จึงเป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๕๖ (๒) (ค) ที่ให้หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการจัดจ้างจากผู้ประกอบการซึ่งมีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว ซึ่งถือเป็นการดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหลักธรรมมาภิบาลทุกประการ
ท้ายนี้ การรถไฟฯ จึงขอเน้นย้ำข้อเท็จจริงเพื่อให้ความมั่นใจอีกครั้งว่า โครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ ได้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส คุ้มค่า เป็นประโยชน์ต่อรัฐและประชาชน อีกทั้งยังถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐทุกประการ พร้อมกับคำนึงถึงความสวยงาม ความปลอดภัย สอดคล้องกับการยกระดับ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ให้เป็นศูนย์กลางระบบรางที่ดีที่สุดในประเทศ และภูมิภาคต่อไป