เวนคืน ตัด5 โครงข่ายถนนเปิดทำเลทอง พลิกโฉมเมือง

"ถนน"หนึ่งในปัจจัยสำคัญในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาในทำเลใดทำเลหนึ่ง แม้ว่าปัจจุบันจะมีเรื่องของเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้ามาเป็นตัวแปรที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของทำเลมากกว่าแบบชัดเจน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกทำเลของกรุงเทพมหานครจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่าน หลายทำเลที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะอิทธิพลของถนนเส้นทางใหม่

   “PropertyDNA” ไล่เรียงเส้นทางของถนนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตที่น่าสนใจ ดังนี้เริ่มจาก โครงการต่อเชื่อมถนน “นครอินทร์-ศาลายา” ถนนเชื่อมจังหวัดนนทบุรี และนครปฐม โดยประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน เมื่อเดือนกันยายน 2564 แนวเส้นทางผ่านพื้นที่ 3 อำเภอ 6 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7 ตำบล และ 28 หมู่บ้าน/ชุมชนของนนทบุรี และนครปฐม ก่อนหน้านี้ พื้นที่ตามแนวเส้นทางเป็นพื้นที่สีเขียวที่ยังไม่มีการพัฒนา และเป็นหมู่บ้านจัดสรรอยู่จำนวนมาก

มีหลายโครงการที่จะโดนเวนคืนเพื่อก่อสร้างถนนขนาด 6 ช่องจราจรยาว 12 กิโลเมตร ค่าเวนคืน 4,392 ล้านบาท จ่ายให้ผู้ถูกเวนคืนมีที่ดิน 1,370 แปลง และสิ่งปลูกสร้างอีก 87 หลังช่วยให้การเดินทางในพื้นที่ตอนเหนือของนนทบุรี และนครปฐมสะดวกมากขึ้น

อีกโครงการที่น่าจับตาอยู่ระหว่างสำรวจออกแบบถนนต่อเชื่อมถนน “พุทธมณฑล สาย 3 และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304” (ทล.340) ปทุมธานี ระยะทาง26 กิโลเมตรขนาด6 ช่องจราจรไป-กลับ และอีก 4 ช่องจราจรคู่ขนาน รวมเขตทาง60 เมตร ครอบคลุมพื้นที่กทม. และอีก 2 จังหวัด คือ นนทบุรี และปทุมธานี เป็นถนนอีก เส้นทางที่จะช่วยลดความหนาแน่นของถนนกาญจนาภิเษก และถนนราชพฤกษ์ได้เมื่อเปิดให้บริการ เพียงแต่ขณะนี้ อาจเป็นเพียงการศึกษาเท่านั้น ยังไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม

ที่น่าสนใจ คือ การก่อสร้างของถนนเส้นนี้อาจเกิดขึ้นในเวลาที่ไล่เลี่ยกับวงแหวนรอบที่ 3 ของกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่การศึกษาแนวทางของการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี2566 งบประมาณในการก่อสร้างกว่าแสนล้านบาท ซึ่งถนนวงแหวนรอบที่ 3 นี้กระทบกับพื้นที่มหาศาลและกระทบถนนเส้นทางต่างๆ หลายเส้นทาง

ขณะโครงการเชื่อมต่อถนน “กัลปพฤกษ์ -ถนนพุทธสาคร” อีก หนึ่ง เส้นทางที่ยังไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเวนคืน แม้ว่ามีข่าวหรือมีการรับรู้กันมานานหลายปี ว่าจะเกิดขึ้น ถนนเส้นนี้จะเชื่อมต่อกทม.ฝั่งตะวันตกกับสมุทรสาครทำให้การเดินทางไปยังถนนพระรามที่ 2 และต่อเนื่องไปถึงภาคใต้มีทางเลือก ช่วยบรรเทาความหนาแน่นของถนนพระรามที่ 2 ได้ โดยมีระยะทาง 13.6 กิโลเมตร

คาดว่าจะใช้งบประมาณก่อสร้าง7,364 ล้านบาท แบ่งค่าก่อสร้าง 6,014 ล้านบาท และค่าเวนคืน 1,350 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่ค่าเวนคืนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะเมื่อยังไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน จึงมีการก่อสร้างบ้านรวมไปถึงโครงการจัดสรรเกิดขึ้นหลายโครงการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าทางบางผู้ประกอบการเจ้าของโครงการอาจจะมีการกันพื้นที่บางส่วนเพื่อรอความชัดเจนของโครงการ  แต่บางโครงการก็ไม่ได้มีการกันพื้นที่ไว้ เป็นถนนขนาด 6 ช่องจราจรไป-กลับขนาดเดียวกับถนนกัลปพฤกษ์ และเป็นอีกเส้นทางที่มีแนวเส้นทางขนานกับถนนเพชรเกษม อีกทั้งเชื่อมต่อกับถนนอีกหลายเส้นทางแบบเดียวกับถนนเพชรเกษม

มาต่อที่ โครงการขยายถนนทวีวัฒนา-ซอยเพชรเกษม 69-ถนนบางบอน 3 เพราะซอยเพชรเกษม 69 มีขนาดเล็ก แต่ความหนาแน่นสูงมากเกือบทั้งวัน เพราะเป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนบางบอน 3 ถนนเพชรเกษม ไปถึงพระรามที่ 2 ได้ ซึ่งพื้นที่ดังกล่างมีความหนานแน่นของโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก จึง เพื่อบรรเทาความหนาแน่นอีกทั้งยังช่วยให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น พระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินประกาศมาแล้วตั้งแต่พฤศจิกายน 2561 เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้วแต่คืบหน้ายังไม่มากเพราะความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยจำนวนมาก

 โครงการถนนเส้นทาง “เพชรเกษม-สุขสวัสดิ์-วงแหวนด้านใต้” ถนนตามแนวผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับปีพ.ศ.2556 โดยในผังเมืองเรียกว่าถนน “ฉ1” และ “ง21” เป็นถนนอีก เส้นทางที่มีพระราชกฤษฏีกาเวนคืนที่ดินไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 นี้เอง เป็นถนนที่มีความยาว21.9 กิโลเมตรครอบคุลมหลายเขตของกรุงเทพมหานคร เช่น ภาษีเจริญ จอมทอง บางขุนเทียน ทุ่งครุ และราษฎร์บูรณะ เป็นถนน 6 ช่องจราจรไป-กลับ เริ่มตั้งแต่ถนนเพชรเกษมผ่านถนนถนนเทอดไท กัลปพฤกษ์ เชื่อมต่อกับถนนสุขสวัสดิ์ และวงแหวนกาญนาภิเษกฝั่งใต้ แนวเส้นทางผ่านหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่ง

 รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ อีกไม่น้อย เพราะเป็น หนึ่งในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงมาต่อเนื่อง โครงการบ้านจัดสรรของผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายโดนเวนคืนที่ดิน ซึ่งจริงๆ แล้วถนนเส้นทางนี้อยู่ในผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครมานานแล้ว และมีมาก่อนที่จะเกิดหมู่บ้านจัดสรรต่างๆ อีก

เพียงแต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เป็นรูปธรรมเท่านั้นมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะโดนเวนคืน ดังนี้ ที่ดินจำนวน 1,996 แปลง และสิ่งปลูกสร้างอีกกว่า 1,443 รายการ กรอบวงเงินในการเวนคืนประมาณ 12,680ล้านบาท แค่ค่าเวนคืนมหาศาลแล้ว ไม่แน่ชัดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้เมื่อใด  แม้ว่าปัจจุบันเริ่มดำเนินการในเรื่องของการเวนคืนที่ดินไปแล้ว ยังคงต้องติดตามต่อไป ถนนเส้นทางนี้ผ่านจุดอับ จุดที่เข้าถึงได้ยากในฝั่งธนบุรี หรือไม่

   นี่คือ โครงข่ายถนนสายใหม่ที่จะมาพร้อมกับความเจริญในทุกมิติ !!!