น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535)
มีสาระสำคัญ เพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อกำหนดด้านระบบความปลอดภัยเกี่ยวกับอัคคีภัยในส่วนที่เกี่ยวกับโครงสร้างและอุปกรณ์ ที่เป็นส่วนประกอบของอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ ให้มีมาตรฐานไม่ต่ำกว่าข้อกำหนดตามกฎกระทรวงการแก้ไขอาคารที่มีสภาพหรือมีการใช้ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน
หรืออาจไม่ปลอดภัยจากอัคคีภัย หรือก่อให้เกิดเหตุรำคาญ หรือกระทบกระเทือนต่อการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2563 ให้เหมาะสม ทันสมัย มีมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอัคคีภัยที่สูงขึ้น และอาคารมีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้อาคาร
โดย “อาคารสูง” หมายความว่า อาคารที่บุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้โดยมีความสูงตั้งแต่ 23.00 ม. ขึ้นไป โดยวัดจากระดับพื้นดินที่ก่อสร้างถึงพื้นดาดฟ้าสำหรับอาคารทรงจั่วหรือปั้นหยาให้วัดจากระดับพื้นดินที่ก่อสร้างถึงยอดผนังของชั้นสูงสุด
ส่วน “อาคารขนาดใหญ่พิเศษ” หมายความว่า อาคารที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อใช้อาคารหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารเป็นที่อยู่อาศัย หรือประกอบกิจการประเภทเดียวหรือหลายประเภท โดยมีพื้นที่รวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในหลังเดียวกันตั้งแต่ 10,000 ตร.ม. ขึ้นไป
สำหรับร่างกฎกระทรวง ฉบับนี้ มีการแก้ไขในประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง คือ
1. กำหนดคำนิยามเพิ่มขึ้นให้ชัดเจน ดังนี้
“เขตทาง” (ความกว้างรวมของทาง) เพื่อแก้ไขปัญหาการวัดความกว้างเขตทาง ที่มีความไม่ชัดเจน “การกันแยก” กำหนดกั้นแยกพื้นที่อาคารออกเป็นส่วนๆ เพื่อป้องกัน ไม่ให้ไฟลุกลามระหว่างแต่ละส่วนของอาคาร ช่วยให้ผู้คนหลบหนีและลดความเสี่ยงของอาคารที่พังทลายลงจากการแพร่กระจายของไฟเรียกว่าการป้องกันอัคคีภัยแบบเชิงรับ (Passive Fire Protection) “ชั้นใต้ดิน” กำหนดพื้นที่ของอาคารชั้นที่อยู่ต่ำกว่าระดับดิน มากกว่า 1.20 ม.
2. เพิ่มเติมข้อความ ข้อกำหนดบางประการ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่มีการบังคับในปัจจุบันและตามมาตรฐานสากล ดังนี้
ทั้งนี้ มีการกำหนดบทเฉพาะกาล เพื่อให้อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษที่มีอยู่ใน วันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ หรือที่ได้รับใบอนุญาตหรือใบรับแจ้งการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และยังก่อสร้างหรือดัดแปลงไม่แล้วเสร็จ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้
ปัจจุบันมีการก่อสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือประกอบกิจการประเภทเดียวหรือหลายประเภทรวมกันเพิ่มขึ้น รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยจึงเห็นถึงความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขข้อกำหนดด้านระบบความปลอดภัยเกี่ยวกับอัคคีภัย เพื่อให้อาคารที่จะก่อสร้างขึ้นใหม่มีความปลอดภัยต่อการใช้สอยเทียบเท่าหรือมากกว่าอาคารเก่า
ครอบคลุมการจัดให้มีผนังหรือประตูที่ทำด้วยวัสดุทนไฟที่สามารถปิดกันไม่ให้เปลวไฟหรือควันเข้าไปสู่บันไดของอาคาร ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ทางหนีไฟและบันไดหนีไฟ ระบบสัญญาณเตือนเหตุเพลิงไหม้ ระบบการจัดแสงสว่างและการระบายอากาศและระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้าสำรองสำหรับกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งขนาดและลักษณะพื้นที่ของดาดฟ้าที่ใช้เป็นทางหนีไฟทางอากาศ ด้วย
โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำในที่ประชุมครม. ถึงความสำคัญของความพร้อมของอาคาร โดยเฉพาะระบบการป้องกันภัย ที่ต้องมีความเหมาะสมเป็นไปตามเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจ สังคม โดยย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันไปดำเนินการให้รัดกุมต่อไป