กาญจนบุรี จังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกของประเทศ ไทยมีพื้นที่ 19,473 ตารางกิโลเมตร ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดเชียงใหม่พื้นที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตก มีจุดเด่นเป็นเมืองเงียบสงบเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวรายล้อมด้วยเขตอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่
มีเทือกเขาตะนาวศรีทอดยาวตลอดแนวจังหวัด มีแหล่งนํ้า ป่าใหญ่จากทุ่งใหญ่นเรศวรเชื่อมป่าห้วยขาแข้ง ป่าสาละวิน ทำให้กาญจนบุรี อุดมสมบูรณ์ อุณหภูมิไม่ขึ้นแรงลงแรง ทำให้กาญจนบุรีกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญใกล้กรุงเทพ มหานครที่กำลังมาแรงเชื่อมโยงไปยังจังหวัดใกล้เคียงจากระยะทางห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 129 กิโลเมตร มีชายแดนติดต่อกับเมียนมาระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตรที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้ความสำคัญอย่างน่าจับตา
โควิดลดคนเข้า “กาญจน์”พุ่ง
สะท้อนจากหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังกาญจนบุรีเพิ่มขึ้น โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวแทนการเดินทางโดยใช้เครื่องบินรถประจำทางสาธารณะ ไปท่องเที่ยวยังสถานที่ห่างไกล และแออัด โดยเฉพาะ ชาวต่างชาติจากที่เคยเข้ามาใช้ชิวิตในจังหวัดค่อนข้างบางตาแต่ปัจจุบันเริ่มคึกคักขึ้น จากเดิม ไม่ถึง5% ของ ยอดนักท่องเที่ยวรวม 10-20 ล้านคนปัจจุบันเพิ่มขึ้นเท่าตัว เพราะต้องการใกล้ชิดธรรมชาติและมีต้นทุนที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับการใช้ชีวิต บนเกาะภูเก็ต และเกาะสมุย
โดยทำเลที่มีศักยภาพและสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ดีให้กับกาญจนบุรีคือ อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอ สังขละบุรี อำเภอไทรโยคและอำเภอทองผาภูมิที่นอกจากจะใกล้ชิดกับธรรมชาติจากผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์แล้วยังมีสะพานมอญสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในไทยแลนด์มาร์คสำคัญเมืองชายแดนอำเภอสังขละบุรีที่วันนี้คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว แม้ระยะทางจะ ห่างจากตัวเมืองกาญจน์มากถึง 215 กิโลเมตรด้วยภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อนไม่ต่างจากภาคเหนือทำให้ที่นี่มีเสน่ห์น่าค้นหาและสร้างรายได้เข้าพื้นที่เพิ่มขึ้น
ปั้นเมืองกาจน์ “ไมซ์ซิตี้ ”
นาย วิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัด กาญจนบุรี เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ด้วยศักยภาพของกาญจนบุรีเป็นเมืองเกษตรกรรมและมีสภาพเป็นผืนป่าและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเชิงอนุรักษ์ส่งผลให้ การพัฒนามุ่งเน้น เมืองท่องเที่ยวผสมผสานภาคเกษตรกรรม ที่ให้ความสำคัญกับการลดโลกร้อน ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับ 2-3 ของประเทศ อนาคตการเดินทางสะดวกจากมอเตอร์เวย์ส่งผลให้คนเดินทางมายังพื้นที่มากขึ้นสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนจากการเข้าพักโรงแรม และร้านอาหาร
ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นโดยเฉพาะต่างชาติและจากการที่จังหวัดต้องการเป็นเจ้าภาพงานมหกรรมพืชสวนโลก ดังนั้นจึงผลักดันให้เมืองกาญจน์เป็น”ไมซ์ซิตี้” เมืองที่มีศักยภาพในการจัดการประชุมสัมมนาระดับประเทศและระดับโลก เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อน
ขณะเดียวกันมีโรงแรมทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกระเบียน รวมกว่าหมื่นห้องที่พร้อมจัดระเบียนให้ถูกกฎหมายทั้งหมด เพื่อรับการเป็นเมืองไมซ์
อย่างไรก็ตาม มี กลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้าพื้นที่ ล่าสุดทราบว่า กลุ่มเซ็นทรัลเข้ามาหาที่ดินเพื่อเช่าทำโรงแรมหรูรองรับนักท่องเที่ยว ที่ผ่านมามีโรบินสันเข้ามาเปิดให้บริการ บริเวณทางเลี่ยงเมืองและยังมี ดูโฮมซื้อที่ดินกว่า 100 ไร่ โกลบอลเฮ้าส์ บุญถาวร โฮมโปร ไทวัสดุ บิ๊กซี โลตัส ฯลฯ เรียกว่าครบทุกค่ายทุกแบรนด์ เพราะคาดการณ์ว่าจะมีการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจุดขึ้น-ลงมอเตอร์เวย์ กาญจนบุรีจะอยู่ที่บริเวณดูโฮม
ขณะจุดตัดใหญ่ 3 จุด ได้แก่ 1.วัดบ้านทอง หรือท่าล้อ อำเภอ เมือง ถนนเส้น 323( ถนนเพชรเกษม-กาญจนบุรี) ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ 2.แยก วังสารภี แยกโรบินสันยังไม่สร้างงบเคยมา 3.แยกแก่งเสี้ยน ยังไม่ลงมือสร้าง ซึ่งหอการค้า ซึ่งที่ผ่านมา ได้ผลักดัน สะพานข้ามแยก วงเงิน300ล้านบาท บริเวณแยกวังสารภีเพราะมีปริมาณรถหนาแน่น หากมีสะพานลอย รับจราจร ข้ามแยกขนาดสี่ช่องจราจรจะช่วยระบายรถได้ 5-10 ปี ขณะราคาที่ดินพุ่งหลายเท่าตัวบริเวณทางเลี่ยงเมือง แถบท่อล้อ ราคา 10ล้านบาทต่อไร่ขึ้นไปจากเดิม2ล้านบาทต่อไร่
มอเตอร์เวย์บางใหญ่ ดึงคนทะลัก
อีกแม่เหล็กสำคัญที่ทำให้ เมืองกาญจน์ มีคนเดินทางและลดต้นทุนภาคขนส่งสินค้าเกษตร โดยช่วงปลายปีนี้ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ช่วงบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตรของกรมทางหลวง จะเปิดทดลองใช้บริการและเปิดเต็มรูปแบบปีหน้านับเป็นอีกหนึ่งโครงข่ายศักยภาพใช้เวลาเดินทางเพียง 1ชั่วโมง หรือน้อยกว่านั้น เมื่อเทียบกับการเดินทางบนถนนสายอื่นใช้เวลาเดินทางกว่า 2 ชั่วโมง หากผ่านกรุงเทพมหานครที่มีปริมาณรถแออัด เข้าสู่เส้นทางมอเตอร์เวย์ที่บางใหญ่ ปลายทางบรรจบทางเลี่ยงเมือง
บริเวณที่ตั้งของโรบินสัน หรือ เริ่มจากบริเวณจุดตัดทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ด้านตะวันตกกับถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณทางแยกต่างระดับบางใหญ่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และสิ้นสุดที่ทางหลวงหมายเลข 324 (ถนนกาญจนบุรี-อ.พนมทวน) อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี อย่างไรก็ตาม ถนนสายเศรษฐกิจของกาญจนบุรี มี3เส้นทางรองรับความเจริญ ได้แก่
1.มอร์เวย์บางใหญ่ -กาญจนบุรี
2.เพชรเกษม นครปฐม แยกบ้านโป่ง กาญจนบุรี และ
3. แยกนพวงศ์ บางเลน กำแพงแสน พนมทวน กาญจนบุรี
โดยมอเตอร์เวย์เส้นนี้จะเชื่อมต่อ นนทบุรี กับ กาญจนบุรีให้กระชับถึงกันง่ายขึ้ร ลดพลังงานการสูญเสียทางเศรษฐกิจ และผลักดันให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวไป-กลับแบบวันเดย์ทริป
คมนาคมปูพรมโครงข่ายใหม่
ขณะเดียวกันยังมีแผนลงทุนโครงข่ายเพิ่ม รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า ความคืบหน้าโครงการทางพิเศษ (ด่วน) ฉลองรัช ส่วนต่อขยาย ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา ระยะทาง 16.2 กิโลเมตร (กม.) วงเงินอยู่ที่ประมาณ 24,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 3,700 ล้านบาท และค่าก่อสร้าง 20,300 ล้านบาท หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 14 มี.ค. 2566 อนุมัติให้กทพ.ดำเนินโครงการแล้ว
ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการร่างขอบเขตของงาน (TOR) โดยคณะกรรมการร่างทีโออาร์ ฯได้กำหนดรูปแบบของสัญญางานออกเป็น 5 สัญญา ประกอบด้วย งานก่อสร้างโยธา 4 สัญญา และงานติดตั้งระบบและบริหารจัดการจราจร 1 สัญญา คาดว่าจะออกประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนได้ภายในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2566 ทั้งนี้โครงการฯจะเปิดประมูลได้ภายในปี 2567 หลังจากนั้นจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างระยะเวลา 3 ปี พร้อมเปิดให้บริการต้นปี 2570
ขณะเดียวกันกรมทางหลวง (ทล.) ยังอยู่ระหว่างศึกษาพัฒนาโครงข่าย MR-Map ของกระทรวงคมนาคม โดย กทพ.มีแนวทางในการปรับแนวเส้นทางของทางด่วนช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา เพื่อเชื่อมต่อถนนวงแหวนรอบนอกฯ รอบที่3 (MR10) บริเวณลำลูกกา และ MR6 (กาญจนบุรี-สระแก้ว) ทั้งนี้จะต้องรอกรมทางหลวง (ทล.) สรุปการพัฒนา MR10 ให้ชัดเจนก่อน
นอกจากนี้ในปัจจุบันกทพ.อยู่ระหว่างจัดทำรายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) สำหรับส่วนเชื่อมต่อไปยัง MR10 เพื่อเสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาต่อไป
รายงานข่าวจากกกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมฯมีแผนแม่บททางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบรางระยะ 20 ปี (ปี 2566-2585) ) ภายใต้การศึกษาแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) และระบบราง (Motorway-Rail Map: MR-MAP) เบื้องต้นทล. ได้สรุปแผนแม่บทบูรณาการ MR-MAP ในระยะยาว ระยะทาง 6,877 กิโลเมตร (กม.) โดยมีการพิจารณากำหนดรูปแบบการพัฒนามอเตอร์เวย์และระบบรางในเส้นทางแนวตะวันออกและตะวันตก รวมทั้งในแนวเส้นทางเหนือ-ใต้ คาดว่าผลการศึกษาฯจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2566 จากนั้นเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อนำรายงานคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทราบ และผลักดันให้เกิดการก่อสร้างต่อไป
สำหรับโครงการ MR-MAP ที่มีแนวเส้นทางเชื่อมต่อกับจังหวัดกาญจนบุรี คือ แนวเส้นทาง MR6 กาญจนบุรี-สระแก้วระยะทางรวมประมาณ 390 กิโลเมตร (กม.) โดยแนวเส้นทางดังกล่าวจะเชื่อมโยงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกับประตูการค้าและเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศทางด้านตะวันออก ที่ด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเชื่อมโยงการค้าการคมนาคมขนส่งระหว่างไทยกับกัมพูชา
นอกจากนี้แนวเส้นทางยังเชื่อมโยงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกับประตูการค้าและเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศทางด้านตะวันตกที่มีศักยภาพในอนาคต ที่ด่านพุนํ้าร้อน จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเชื่อมโยงไปยังท่าเรือนํ้าลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ในเมียนมา ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ระดับภูมิภาคที่มีแผนจะพัฒนาขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้แนวเส้นทาง MR6 กาญจนบุรี-สระแก้ว มีจุดเริ่มต้นที่ด่านนํ้าพุร้อนอำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และมีจุดสิ้นสุดที่ด่านอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยผ่านพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี, กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, ฉะเชิงเทรา, ปราจีนบุรี และสระแก้ว ซึ่งมีช่วงเส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในปัจจุบัน คือ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร (กม.) ที่เหลือแผนก่อสร้างในอนาคต โดยมีช่วงที่พัฒนาเป็นมอเตอร์เวย์ร่วมกับระบบราง ประมาณ 172 กิโลเมตร (กม.) ได้แก่ ช่วงด่านนํ้าพุร้อน-กาญจนบุรี และช่วงปราจีนบุรี-สระแก้ว
รายงานข่าวจาก ทล. กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) M81 บางใหญ่- กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุนรวม 56,178 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 38,726 ล้านบาทและค่าเวนคืน 17,452 ล้านบาท โดยดำเนินการก่อสร้างทั้งหมด 25 ตอน (สัญญา) ปัจจุบันมีความคืบหน้ากว่า 96% เบื้องต้นกรมฯมีแผนจะเปิดให้ทดลองใช้บริการมอเตอร์เวย์สายนี้บางส่วน เป็นระยะทาง 50 กิโลเมตร (กม.) ช่วงสัญญาที่ 13-23 ผ่าน 3 จังหวัดจากนครปฐม-ราชบุรี - กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างลงสำรวจพื้นที่จริงและประเมินความเสี่ยงในประเด็นต่างๆ หากมีความพร้อมคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนได้ใช้งานบางส่วนได้ในช่วงปีใหม่ 2567
ด้านความคืบหน้างานดำเนินงานและบำรุงรักษา Operation and Maintenance (O&M) ของมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี มีกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR ประกอบด้วยบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) และ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เป็นผู้รับจ้างนั้น ปัจจุบันมีความคืบหน้าในงานมากกว่า 13% ทั้งนี้ตามแผนกำหนด แล้วเสร็จประมาณปลายปี 2567 หลังจากนั้นจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในเดือนมกราคม 2568