ภูเก็ตกลับมาคึกคัก หลังเปิดประเทศตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย อานิสงส์ปัจจัยรัฐเชีย-ยูเครนรวมถึงสภาพอากาศอันหนาวเหน็บของประเทศในแถบยุโรป ส่งผลให้ มีการเดินทางเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัย เพิ่มขึ้นเป็นเหตุให้ดีเวลลอปเปอร์ ทั้งจากส่วนกลาง และท้องถิ่นชิงความได้เปรียบพัฒนาโครงการเจาะตลาดกลุ่มนี้กันมาก
โดยเฉพาะไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ประเมินกันว่าจะมีนักท่องเที่ยว เพิ่มจำนวนมากขึ้น เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น ที่สำคัญมีเที่ยวบินที่บินตรงมาลง ภูเก็ตได้ทันที เช่นเดียวกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทยผู้นำการพัฒนามิกซ์ยูสขนาดใหญ่
วางแผนยุทธศาสตร์พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเกาะกลุ่มกันไปกับศูนย์การค้าทั่วประเทศ สร้างความเจริญให้กับพื้นที่ เพราะไม่ว่าศูนย์การค้าอยู่ที่ไหนที่นั่นย่อมมีโครงการบ้านจัดสรรคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นรายรอบ ซึ่งทุกค่ายจะได้อานิสงส์จาก “เซ็นทรัล” สิ่งที่ตามมาคือราคาที่ดินจะปรับตัวสูงเพิ่มมูลค่า และ “ภูเก็ต” ก็เช่นกัน
ศูนย์การค้าจุดพลุทำเลทอง
นายกรี เดชชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจที่อยู่อาศัย บริษัทเซ็นทรัลพัฒนาจำกัด (มหาชน) หรือ CPN คีย์แมนสำคัญ อธิบายถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาของ CPN ว่า มุ่งเน้นพัฒนาโครงการในรูปแบบ “Retail-Led Mixed-Use Development” โดยมีธุรกิจศูนย์การค้าเป็นแกนหลักสร้างความแข็งแกร่งของการ เชื่อมโยงกับธุรกิจที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรม ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนครบแบบ 360 องศา ทั้งคนไทยและต่างชาติ ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิต แบบเรียบง่ายแต่ดูแพงทำเลทอง ใกล้ศูนย์การค้า แม้จะถูกจำกัดเรื่องของความสูงตามข้อบังคับผังเมือง แต่สามารถออกแบบ ให้ดูแพงในแบบซิตี้คอนโด โลว์ไรส์สูงไม่เกิน8ชั้น
สิ่งที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยประทับใจ นั่นคือการ จัดทำระบบความปลอดภัยขั้นสุงสุดตามมาตรฐานอาคารสูงที่ต้องออกแบบโดยมี ระบบดับเพลิงติดตั้ง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝั รวมถึงการให้พื้นที่พื้นที่สีเขียว สระขนาดใหญ่ในโครงการเหมือนใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางรีสอร์ทตลอดเวลาการพักผ่อนการออกแบบที่เห็นวิวทุกห้องราวกับอยู่บนเกาะส่วนตัว
ที่มาของที่ดินทำเลทอง
ขณะทำเลมีศักยภาพสูงตั้งอยู่บนถนนเหมืองนาคา บริเวณ ทาง แยกสำคัญที่จะเป็นเส้นทางไปสู่ตัวเมืองภูเก็ต และเดินทางยังส่วนอื่นๆของเกาะได้ และใกล้กับเซ็นทรัลภูเก็ตเพียง 300 เมตร นายกรีเล่าย้อนไปถึงที่มาของที่ดินแปลงนี้ว่าซื้อเพิ่มเติมต่อมาจากตระกูลหงส์หยกเนื้อที่ 20ไร่ ราชาที่ดินรายใหญ่ บนเกาะแห่งนี้ที่มีที่ดินในมือกว่า 1,000 ไร่ก่อนช่วงเกิดสถานการณ์โควิด ไม่นานขณะราคาตารางวาละ1แสนบาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงต่อเนื่องโดยทำเลถนนเหมืองนาครเต็มไปด้วยดงคอนโดมิเนียม ทุกค่าบแบรนด์ดังเข้ามาปักหมุด เพราะใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลและเดินทางเข้าเมืองสะดวก
“เกือบทุกที่ในภูเก็ตโดยเฉพาะบริเวณลากูน่า สูงสุด 60 ล้านบาท และโรบินสันภูเก็ต บอกขายไร่ละ 50 ล้านบาทแพงขึ้น 5 เท่าจากช่วงโควิด”
อาณาจักร 2.5หมื่นล้าน
เมื่อได้ที่ดินมา จากนั้นได้วางแผนพัฒนา แบรนด์ “ฟีล” (PHYLL) 3เฟส จำนวน 1,339 ยูนิต มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท แบ่งพัฒนา 3 เฟส ใช้เวลาดำเนินการ 3-5 ปี เริ่มเฟสแรกเนื้อที่ 6 ไร่ 3 อาคาร จำนวน 439 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่มียอดขายแล้ว 70% อีก 30%หรือกว่า 100 ยูนิต ที่เหลือจะเปิดแกรนด์โอเพนนิ่งเดือนพฤศจิกายนนี้คาดจะปิดการขายภายในปีนี้
ตามแผนพัฒนาใช้เวลาพัฒนา 7 ปีเศษ เนื่องจากเกิดการระบาดรุนแรงจากโควิดแต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายเร็วและ รัฐบาลในสมัยนั้นเปิดประเทศมีต่างชาติเข้ามาทำงานใช้ชีวิตตามปกติ ทำให้ปรับแผนการพัฒนาโครงการลงเหลือ 3-5 ปี เพราะการตอบรับโครงการดังกล่าวดีเกิดคาดปัจจุบันเฟสแรกโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้ว 70% ส่วนอีก 30% รอโอนในช่วงถัดไป และอาจรอปรับราคาขายทำกำไร จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นทั้งโครงการและราคาที่ดิน
ขณะเดียวกัน เซ็นทรัลพัฒนา ยังปรับแผนพัฒนา โดยอาจเพิ่มเติม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ในเฟส 3 รองรับกลุ่มต่างชาติ ที่พลิกฟื้นกลับมาเร็ว แต่นายกรี ระบุว่าจะพัฒนาได้ ประมาณ 300 ยูนิต เท่านั้น จากจำนวนยูนิตที่วางไว้ ประมาณ 900 ยูนิต ในเฟส 2 และเฟส 3 ซึ่งจะเป็นโมเดลต้นแบบ หากปล่อยเช่า จะอยู่ที่ราคา เกือบ 4 หมื่นบาทต่อเดือน รองรับกลุ่มต่างชาติและคนไทยกระเป๋าหนักด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีแผนซื้อที่ดินขยายโครงการต่อเนื่องเพราะปีนี้ต่างชาติกลับมาค่อนข้างมากโดยเฉพาะไตรมาส4 ต่อไปจนถึงปีหน้า หากรวมมูลค่า โครงการรวมทั้งศูนย์การค้าทั้งสองแห่ง และโครงการคอนโดมิเนียมทั้ง3 เฟส อยู่ที่ 25,000 ล้านบาท แต่ ในระยะยาวจะต่อยอดสร้างมูลค่าให้กับเซ็นทรัลพัฒนาและสังคมรอบข้างได้อย่างมหาศาลรวมถึงการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยติดห้างโรบินสันอีกด้วย
คอนโดภูเก็ตเติบโตสูง
นายกรีประเมินว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองภูเก็ตมีโอกาสเติบโต ด้วยศักยภาพของเมืองที่เป็น Attractive Global Destination ล่าสุดติดอันดับ World’s Greatest Places 2023 จากนิตยสาร Time อีกทั้งอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ในแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวของภาครัฐ เพื่อยกระดับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลระดับโลกรวมถึงจากโครงการขนาดใหญ่ ของรัฐในการพัฒนาระบบคมนาคมในอนาคต ครอบคลุมทั้งทางบก ทางนํ้า ทางอากาศ และทางราง เพื่อรองรับการขยายเมือง อาทิ
สนามบินภูเก็ตเฟส 2, ทางด่วนกระทู้-ป่าตอง, ทางหลวงเมืองใหม่-เกาะแก้ว, รถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสัญญาณดีด้านการท่องเที่ยวและกำลังซื้อทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศโรงแรมและการท่องเที่ยวในภูเก็ตได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากแคมเปญภาครัฐตั้งแต่ช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดที่พักอาศัยยอดขายค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมา
ขณะตลาดต่างประเทศ การท่องเที่ยวฟื้นฟูกลับมาเช่นกันนักท่องเที่ยวต่างชาติท่องเที่ยวภูเก็ตในปีนี้ช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2.3 ล้านคน ประเมินว่าปีหน้า จะเพิ่มขึ้นเป็น 4-5 ล้านคนต่อปี โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักคืออันดับหนึ่ง ได้แก่ รัสเซีย ตามมาด้วยจีน อีกทั้งยังพบ ดีมานด์ในกลุ่มลูกค้าชาวยุโรปที่ต้องการบ้านสำหรับช่วงเกษียณอายุโดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มรัสเซีย
นี่คืออีกโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ของเซ็นทรัลพัฒนา บนเกาะภูเก็ต จุดหมายปลายทาง “ระดับเวิลด์คลาส” ที่น่าจับตายิ่งในเวลานี้!!!