วัสดุก่อสร้าง แข่ง กรีน-นวัตกรรม “สถาปนิก’67”

04 พ.ค. 2567 | 00:48 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ค. 2567 | 00:58 น.

วัสดุก่อสร้าง สาดนวัตกรรม-กรีนรักษ์โลกใน งาน “สถาปนิก’ 67” สร้างจุดขายตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค-สถาบันการเงินปล่อยกู้ นายกสมาคมสถาปนิกฯคาดรายได้สะพัด 2.2 หมื่นล้านบาท

 

วัสดุก่อสร้างหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการก่อสร้างและงานออกแบบส่งผลให้ เกิดการแข่งขันสร้างนวัตกรรม รวมถึงให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ตามเทรนด์ และกติกาการค้าโลก เป็นจุดแข่งขันใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและเป็นจุดขายใหม่ที่สถาบันการเงินให้ความสำคัญในการปล่อยกู้

สะท้อนได้จากในงาน “สถาปนิก’67” ที่ผู้ประกอบการได้นำ สินค้าและนวัตกรรมรักษ์โลก มาแสดงกันอย่างคึกคัก ระหว่างวันที่ 30 เมษายน-5 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด Collective Language : สัมผัส สถาปัตย์ ซึ่งมุ่งหวังสร้างการรับรู้ให้ผู้คนจากทั่วโลกได้สัมผัสและเข้าใจงานสถาปัตยกรรมและการออกแบบที่ไร้ขอบเขต

โดยงานนี้ นายชนะ สัมพลัง นายกสมาคมสถาปนิกสยามฯ ประเมิน ว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายวัสดุก่อสร้างกว่า 2.2 หมื่นล้านบาทเนื่องจากอุตสหกรรมก่อสร้างขยายตัวต่อเนื่องและเพิ่มมูลค่าทางนวัตกรรมที่น่าจับตา

ฐานเศรษฐกิจ” ลงพื้นที่สำรวจ ภายในงาน “สถาปนิก’ 67” เริ่มจาก บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตอกย้ำแบรนด์ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมเพื่องานก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งครบวงจรตั้งแต่ฐานรากจนถึงหลังคา จัดเต็มกับงานดีไซน์ Jorakay Pavilion 2024 โดยสินค้านวัตกรรมที่มาเปิดตัวในปีนี้คือ จระเข้ โรด ฟิกซ์ เอ็กซ์เพรส นวัตกรรมมอร์ตาร์สำหรับซ่อมแซมพื้นผิวถนนคอนกรีตชนิดปรับบาง

เปิดใช้งานพื้นที่หลังซ่อมได้ภายใน 6 ชั่วโมง ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการทำงาน พร้อมทั้งสามารถฉาบแต่งผิวได้บางถึง 2-5 มิลลิเมตร และใช้งานในพื้นที่ลาดเอียงได้โดยไม่ไหลตัว และที่สำคัญจะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 97% เมื่อเปรียบกับการซ่อมแซมถนนแบบเก่า เรียกได้ว่าก้าวข้ามข้อจำกัดด้านเวลาและข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมในผลิตภัณฑ์เดียว

เช่นเดียวกับ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOAเปิดนโยบาย GREEN MISSION เดินหน้าพันธกิจ พิชิต Net Zero เสริมแกร่งด้วย..ฉลากลดโลกร้อน (CFR) มากที่สุดในสีทาอาคารมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญในเรื่องสุขอนามัยของผู้บริโภคและใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นผู้ผลิตสีรายแรกในประเทศไทย ที่ยกเลิกการใช้สารโลหะหนัก ปรอท ตะกั่ว ในสีทาอาคารได้สำเร็จ ตั้งแต่ปี 1977 รวมทั้งการไม่หยุดพัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรมสีที่ปลอดภัย ใส่ใจต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของโลกในการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 โดยการประกาศนโยบาย GREEN MISSION เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050 อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (SDGs) ตามกรอบแนวคิด ESG ทั้ง 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1. Environment การดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด 2. Social ความรับผิดชอบต่อผู้ที่มีส่วนได้เสียในทุกมิติ ตั้งแต่ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ชุมชนและสังคม 3. Governance การกำกับดูแลองค์กรให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย

 ด้านทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน (TCM Corporation) หรือ TCMC ผู้นำกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากพื้นผิวจรดเพดาน ขานรับเทรนด์ความยั่งยืน “Sustainability Trends” ขนทัพนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากกลุ่มธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิว (TCM Surface) ที่บูธ Royal Thai ประกอบร่างของสัจจะวัสดุต่างๆ เช่น เหล็ก เส้นไหมที่เหลือใช้ พรมที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ ตลอดจนถึงแผ่นอคูสติก ซึ่งผลิตจากการรีไซเคิลขวดพลาสติก

 เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเร่งเปลี่ยนไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยการปรับกลยุทธ์และพัฒนากระบวนการผลิต รวมทั้งการจัดการเพื่อลดคาร์บอนในกลุ่มสินค้าเพื่อที่อยู่อาศัย เลือกให้ดีต่อโลก เลือกให้ดีต่อเรา ด้วยแนวทาง Greenomy Innovation ที่ผ่านมาเอสซีจีได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิต สุขภาพของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น

ด้วยการเร่งพัฒนาสินค้าและบริการ ที่ช่วยลดผลกระทบด้านสุขภาพต่อผู้ใช้งาน ผู้อยู่อาศัย ตลอดจนผู้ติดตั้งสินค้า ก่อนที่กฎหมายกำหนดบังคับใช้ อาทิ การใช้วัสดุศาสตร์ทดแทนการใช้แร่ใยหินในสินค้าทั้งหมด ทั้งในกลุ่มสินค้าหลังคา สมาร์ทบอร์ด ไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์ โดยที่ยังคงคุณภาพ และราคาที่ผู้บริโภคจับต้องได้ เป็นต้น โดยเอสซีจียกเลิกการใช้แร่ใยหินในสินค้าทุกชนิดตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา

ขณะเดียวกันการขยายตลาดสินค้ากลุ่มเพื่ออยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้สัญลักษณ์ SCG Green Choice ที่มุ่งพัฒนาสินค้าและบริการ โดยปัจจุบันสินค้า Green Choice ของเอสซีจีมีสัดส่วนอยู่ที่ 70% ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า ร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยและผู้ติดตั้งสินค้า ไปจนถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม ด้าน คาซารอคคา (Casa Rocca)แบรนด์ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มวัสดุปิดผิวพื้นและผนังครบวงจร Green Product

ตอบโจทย์ทุกการออกแบบและคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ นำเสนอ CASA Floor แบรนด์กระเบื้องยาง พื้น LVT (Luxury Vinyl Tile) วัสดุทดแทนธรรมชาติเกรดพรีเมียม โดดเด่นเรื่องดีไซน์ และการพัฒนาสีสันลวดลาย รวมถึงผิวสัมผัสให้ดูสวยเสมือนวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ลายหินธรรมชาติ, Terrazzo และลายไม้ ผ่านการคัดสรรโดยทีมดีไซเนอร์มืออาชีพ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติไม่ยืดหดตัว ทนทาน ใช้งานได้ยาวนานนับ 10 ปี ฯลฯ