จากรายงานของ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ Euromonitor เผยว่า ปี 2566 มีจำนวนครัวเรือนที่อยู่เพียงลำพัง หรือ คนโสด จากทั่วโลกราว 400 ล้านครัวเรือน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 3.3% ต่อปี ในขณะที่ประเทศไทย เมื่อปี 2565 มีจำนวนครัวเรือนที่อยู่เพียงลำพังกว่า 7 ล้านครัวเรือน คิดเป็นสัดส่วน 26% ของครัวเรือนในประเทศไทย เพิ่มขึ้นกว่า 10% จากปี 2555
โดยประเทศไทยถือเป็น 1 ใน 10 ประเทศ ที่มีค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคของครัวเรือนที่อยู่เพียงลำพังสูงที่สุดในเอเชียแปซิฟิก โดยเป็นการใช้จ่ายในกลุ่มของสินค้า และบริการ คิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1.4 ล้านล้านบาท ต่อปี
ทั้งนี้ ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างของ แอล. ดับเบิลยู. เอส.ฯ เมื่อเดือน พฤษภาคม ปี 2566 จากจำนวนผู้อยู่อาศัยใน โครงการอาคารชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 729 ตัวอย่าง พบว่า มีสัดส่วนของคนที่อยู่เพียงลำพัง คิดเป็นสัดส่วน 45% สูงขึ้นจากปี 2563 ถึง 10% มีสถานภาพโสดมากกว่า 75% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ประมาณ 5% และมีรายได้ต่อเดือนอยู่ในช่วง 20,000-40,000 บาท
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในเครือ บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า จากแนวโน้มประชากรไทยที่อาศัยเพียงลำพังที่เพิ่มขึ้น และผลสำรวจของ แอล. ดับเบิลยู. เอส.ฯ จึงคาดการณ์ 5 ธุรกิจบริการที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มของความต้องการที่เพิ่มขึ้นของคนโสด เป็นโอกาสที่จะพัฒนา และสร้างธุรกิจในกลุ่มเพื่อรองรับกับความต้องการของตลาด ได้แก่
1. ธุรกิจการเช่าที่อยู่อาศัย โดยจากผลสำรวจพบว่าพฤติกรรมการอยู่อาศัยในอาคารชุดพักอาศัยของ แอล. ดับเบิลยู. เอส.ฯ พบว่า กลุ่มคนเช่าที่อยู่ตัวคนเดียวกว่า 30% มีความศักยภาพที่พร้อมจ่ายค่าเช่าตั้งแต่ 6,000-10,000 บาท/เดือน รวมไปถึงที่อยู่อาศัยในปัจจุบันมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องตามต้นทุนต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น อาทิ ที่ดิน ค่าก่อสร้าง และภาระดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยสูงขึ้นเกินกว่ากำลังซื้อ
รวมถึงความต้องการของคนรุ่นใหม่และคนโสด ที่มีการทำงานอาชีพอิสระมากขึ้น พร้อมที่จะย้ายที่อยู่อาศัยใกล้กับที่ทำงาน และให้ความสำคัญกับการเดินทาง จึงนิยมที่จะเช่ามากกว่าซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อเป็นภาระผูกพันในระยะยาว โดยรูปแบบการพัฒนาอสังหาฯ อย่างอาคารชุดที่พร้อมปล่อยเช่าจำเป็นต้องมีความปลอดภัย, ความสะดวกสบาย, Facility ที่ครบครัน
สามารถใช้บริการได้ 24 ชั่วโมง รวมไปถึงบริการเสริมที่สามารถเรียกใช้บริการผ่าน Application เช่นบริการรถรับ-ส่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าหรือจุดขึ้นรถสาธารณะ, แพ็กเกจบริการทำความสะอาด, บริการซ่อมแซม ตกแต่ง ต่อเติม หรือบริการขนย้ายสิ่งของ เป็นต้น
2. อาคารชุดที่เลี้ยงสัตว์ได้ โดยการสำรวจความสนใจซื้ออาคารชุดที่เลี้ยงสัตว์ได้ ของ แอล. ดับเบิลยู. เอส.ฯ ในปี 2566 พบว่า 3 ใน 4 ของคนที่สนใจซื้ออาคารชุดเพื่อพักอาศัย พิจารณาจากโครงการที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้เป็นหลัก เพื่อในอนาคตหากต้องการเลี้ยงสัตว์จะได้ไม่เป็นปัญหาต่อการอยู่อาศัย ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของมหาลัยมหิดล (CMMU) และ The 1 Insight ระบุว่า
ปัจจุบันคนไทย สัดส่วนมากกว่า 65% เลี้ยงสัตว์เหมือนลูกหรือสมาชิกในครอบครัว หรือที่เรียกว่า Pet Parent ในขณะที่ 33% เลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนคลายเหงา และ 2% เลี้ยงสัตว์เพื่อการบำบัดเยียวยาจิตใจ ซึ่งการเลี้ยงสัตว์ในที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาโครงการอาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้
จึงจำเป็นต้องมีบริการอำนวยความสะดวก ดังต่อไปนี้ บริการฝากดูแล พาสัตว์เลี้ยงเดินเล่น, บริการทำความสะอาดห้องชุดที่มีสัตว์เลี้ยง, บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงในห้องชุด, ร้านขายอาหารสัตว์และอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง, บริการสปา อาบน้ำ ตัดแต่งขนสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
3. ร้านอาหารสำหรับทานคนเดียว หลังสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย สิ่งที่เปลี่ยนไปและสังเกตได้ชัดเจนคือ การมีร้านอาหารสำหรับการรับประทานอาหารคนเดียวมากขึ้น เช่น ร้านอาหารที่ปรับรูปแบบให้เหมาะกับการนั่งคนเดียวโดยมีตุ๊กตาหมีนั่งเป็นเพื่อน, ร้านราเมงจำลองสถานที่สอบเพื่อการรับประทานอาหารคนเดียว หรือร้านปิ้งย่าง
ที่ลดขนาดโต๊ะให้เหมาะกับการรับประทานคนเดียว และจากการผลสำรวจเป็นที่สังเกตได้ว่า กลุ่มคนที่อาศัยอยู่คนเดียวกว่า 50% ชื่นชอบการทำกิจกรรมนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร หรือกิจกรรมอื่นๆคนเดียว ทำให้ธุรกิจร้านอาหารสำหรับรับประทานคนเดียวเป็นที่คาดการณ์ว่าจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
4. การท่องเที่ยวคนเดียว ในปัจจุบันแนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกอย่างมีนัยยะสำคัญ จากผลสำรวจของสำนักวิจัยการตลาด จากประเทศเยอรมัน Statista เผยว่าว่า ในปี 2566 นักท่องเที่ยว 60% มีแผนออกเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มคนโสด ที่ชื่นชอบการเดินทางคนเดียว โดยท่องเที่ยวเฉลี่ยมากกว่า 5 ครั้งต่อปี ที่สำคัญมีการตัดสินใจใช้จ่ายที่รวดเร็วแม้ไม่ใช่ช่วงโปรโมชั่น และในปัจจุบัน หลายแอปพลิเคชันซึ่งสนับสนุนการเที่ยวคนเดียวมีให้ได้ใใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
5. บริการเพื่อนรับจ้าง ปัจจุบันธุรกิจเช่าเพื่อนเริ่มเป็นที่นิยมอย่างมากของกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออนไซต์ โดยเฉพาะในประเทศจีน และญี่ปุ่น จากข้อมูลสำนักงานข่าวนิกเคอิ เอเชีย และ กรุงศรี กูรู รายงานว่า ธุรกิจที่สร้างรายได้จากการให้เช่าเวลาของตัวเอง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า จากสถิติที่เก็บโดยเจ้าของธุรกิจ พบว่ากลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการเช่าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง 70% เช่าเพื่อปรึกษาหรือหาคนรับฟังสิ่งที่เค้าพูด และอีก 30% เช่าเพื่อขอให้ช่วยงานบางอย่างหรือไปเที่ยว, กินข้าว ไปจนถึงพาไปโรงพยาบาลหรือฝากดูแลผู้สูงอายุ เช่นเดียวกันกับในประเทศไทย มีบริการมาเติมเต็มในกลุ่มผู้สูงอายุอย่าง “บริการลูกรับจ้างหลานจำเป็น”ของบริษัท Joyride ที่คอยดูแล รับ-ส่งถึงที่หมาย และหากมองหาบริการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบคนโสด สามารถนำรูปแบบบริการที่มีในต่างประเทศมาปรับใช้ได้เช่นกัน
“จากแนวโน้มดังกล่าว การพัฒนาธุรกิจบริการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเพียงลำพัง จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการในทุกภาคธุรกิจ ที่จะพัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และบริการ ที่ตอบโจทย์กับลูกค้าในกลุ่มนี้ที่มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่ต้องพัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่สนองความต้องการของผู้ซื้อ และผู้เช่าที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวเสริม