กรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือ ThaiBMA ได้ขึ้นเครื่องหมาย Request Information (RI) หุ้นกู้ บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ ANAN เพื่อรอการรายงานหรือแจ้งข้อมูลจากบริษัทฯ หลังจากที่ “อนันดา” แจ้งกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นกู้วันที่ 13 มิถุนายน 2567 ทั้ง 5 รุ่น มูลค่า 11,318.70 ล้านบาท โดยจัดประชุมประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ในวันที่ 27 มิถุนายน 2567 โดยไม่ได้แจ้งเหตุผล หรือวาระการประชุม
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บมจ.อนันดาฯ ชี้แจงผ่าน”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า อนันดาฯยืนยันว่าไม่มีปัญหาขาดสภาพคล่องแต่ในทางกลับกัน ได้เตรียมเงินชำระหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนกรกฎาคม เต็มจำนวน หรือ หุ้นกู้ ANAN247A มูลค่า 3,231.20 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน 14 กรกฎาคม 2567 หลังจากชำระไปก่อนหน้านี้ วันที่ 15 มกราคม2567 มูลค่า 3,826ล้านบาท หรือไตรมาสแรกที่ผ่านมา
“อนันดาฯมีสินค้าพร้อมโอนจำนวน 4หมื่นล้านบาท ทั้งคอนโดฯและบ้านแนวราบเปรียบเสมือนตู้เอทีเอ็มของอนันดาฯที่ สามารถ นำมาขายและนำไปชำระหนี้ได้ตามกำหนด โดยในจำนวนนี้ ก่อสร้างแล้วพร้อมโอน 28,000ล้านบาทอยู่ระหว่างก่อสร้าง 12,000ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี2568 ที่สามารถนำมาสำรองจ่ายคืนหุ้นกู้ส่วนที่เหลือ ครอบคลุมทั้ง 5 รุ่น11,318 ล้านบาท “นายประเสริฐกล่าว
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า กรณี ThaiBMA ได้ขึ้นเครื่องหมาย Request Information (RI) หุ้นกู้ บมจ. อนันดา ฯ ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้หมายความว่า จะ ผิดนัดไถ่ถอน ทั้งนี้อนันดาฯเตรียมเงินไว้หมดแล้วกว่า 4 พันล้าน พร้อมจ่ายคืนทุกบาททุกสตางค์ แน่นอน ส่วนหุ้นกู้ชุดต่อไปที่จะครบกำหนดชำระ คือ รุ่น ANAN251A มูลค่าคงค้าง 1,811.70 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระในวันที่ 15 มกราคม2568 เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาเช่นกัน โดยยังมีเวลาให้เตรียมตัวอีกมากกว่า 6 เดือน ที่สำคัญไตรมาสแรกปีนี้ อนันดาฯพลิกเป็นกำไรกว่า400% จากกำไรติดลบ
“ ช่วงยากลำบากจากสถานการณ์โควิด เราสู้มาตลอดแล้วจะมาทิ้งง่ายๆได้อย่างไร และเชื่อว่าไตรมาส2อนันดาฯสามารถทำกำไรได้เช่นกัน แต่ต้องดูสถานการณ์ตลาดด้วยเนื่องจากกำลังซื้อเปราะบางรุนแรง”
ย้อนไปก่อนหน้านี้เมื่อ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ ANAN ระบุว่า บริษัทได้ดำเนินการชำระหุ้นกู้คืนตามกำหนด 100% ให้กับนักลงทุนในวันที่ 15 มกราคม 2567 มูลค่า 3,826 ล้านบาท และพร้อมชำระคืนหุ้นกู้รอบถัดไปตามกำหนดในเดือนกรกฎาคม 2567 มูลค่า 3,231 ล้านบาท และพร้อมชำระคืนหุ้นกู้รอบถัดไปตามกำหนดในเดือนกรกฎาคม 2567 มูลค่า 3,231 ล้านบาท
สำหรับหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่น มีมูลค่าคงค้างรวมกันประมาณ 11,318 ล้านบาท ประกอบด้วย