จับตาทำเลทองแห่งใหม่ “บางนา-ตราด” สู่ย่านโครงการบ้านหรูระดับลักชัวรี่

03 ก.ค. 2567 | 07:19 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ค. 2567 | 08:17 น.

ปัจจุบัน “ย่านบางนา-ตราด” กำลังเปลี่ยนโฉมสู่ทำเลที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ โดยมีโครงการบ้านหรูราคาสูงเปิดตัวต่อเนื่อง สะท้อนศักยภาพพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนภาคเอกชน

ในช่วงที่ผ่านมา พื้นที่ตามแนวถนนบางนา-ตราด โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่สี่แยกบางนาไปจนถึงกิโลเมตรที่ 15 กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากทำเลอุตสาหกรรมสู่ย่านที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่แตกต่างจากในอดีตหลายประการ อีกทั้งยังมีการสนับสนุนจากภาคเอกชนที่มีการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และหลายโครงการยังอยู่ในช่วงการก่อสร้าง มีกำหนดแล้วเสร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

การเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ปี 2555 เมื่อศูนย์การค้าเมกาบางนาเปิดให้บริการ ประกอบกับการขยายถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกเป็น 6-8 ช่องจราจรในปี 2553 ส่งผลให้พื้นที่ตามแนวถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก และถนนสายรองที่แยกออกไป กลายเป็นทำเลที่มีโครงการบ้านจัดสรรเกิดขึ้นมากมายจนปัจจุบัน รวมไปถึงการเปิดให้บริการเส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายสีเหลืองก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงตามแนวถนนศรีนครินทร์ต่อเนื่องมายังถนนบางนา-ตราด ก็เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้บางพื้นที่มีศักยภาพสูงขึ้น

ปัจจุบัน ทำเลบางนา-ตราด มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ 2 แห่ง ไฮเปอร์มาร์เก็ต คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียนนานาชาติมากกว่า 10 แห่ง มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีอาคารสำนักงานใหม่เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าในอนาคตจะมีพื้นที่อาคารสำนักงานรวมมากกว่า 200,000 ตารางเมตร

สิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณย่านบางนา-ตราด

ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมยังเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญของย่านนี้ แต่ต่างจากในอดีตที่เป็นนิคมอุตสาหกรรม ปัจจุบัน กลายเป็นโกดังสำเร็จรูปให้เช่า หรือโลจิสติคส์แวร์เฮ้าส์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีทั้งแบบแบ่งพื้นที่เช่า แบบเช่าทั้งอาคาร และแบบก่อสร้างตามที่ผู้เช่าในระยะยาวต้องการ โดยเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนมาตั้งแต่ช่วงปี 2563 เป็นต้นมา และมีผลต่อความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้อีกด้วย โดยเฉพาะจากกลุ่มนักธุรกิจ เจ้าของธุรกิจที่เป็นชาวจีนหรือต่างชาติอื่นๆ ซึ่งมีความต้องการบ้านราคาแพงในพื้นที่ตามแนวถนนบางนา – ตราด รวมไปถึงการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมใน EEC ที่ส่งผลถึงพื้นที่ตามแนวถนนบางนา – ตราด ด้วยเช่นกัน มีอาคารสำนักงานใหม่ๆ เกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อรวมพื้นที่เช่าของอาคารสำนักงานทั้งหมดแล้วไม่ต่ำกว่า 175,000 ตารางเมตร และยังมีอาคารสำนักงานที่กำลังก่อสร้างอยู่อีกหลายอาคาร ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีพื้นที่อาคารสำนักงานในทำเลนี้มากกว่า 200,000 ตารางเมตร และถ้ารวมอาคารสำนักงานในพื้นที่ใกล้เคียงบนถนนสุขุมวิทก็คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 300,000 ตารางเมตร ทำให้มีคนเข้ามาทำงานในพื้นที่ย่านนี้และพื้นที่ต่อเนื่องตามแนวถนนสุขุมวิท และ ถนนศรีนครินทร์ ไม่ต่ำกว่า 50,000 คนต่อวัน

 

ในด้านการคมนาคม พื้นที่นี้เชื่อมต่อกับถนนสายหลักหลายเส้น รวมถึงทางด่วนและมอเตอร์เวย์ ทำให้สะดวกในการเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียงได้สะดวกสบาย เชื่อมต่อกับถนนเส้นทางอื่นๆ เช่น ถนนศรีนครินทร์ กิ่งแก้ว และสุขุมวิท เป็นต้น  รวมทั้งยังมีทางพิเศษบูรพาวิถีที่สามารถใช้เดินทางไปจังหวัดชลบุรี และภาคตะวันออกได้ ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งปัจจุบันเชื่อมต่อพื้นที่รอบกรุงเทพฯและปริมณฑลทุกทิศทาง อีกทั้งยังมีทางพิเศษสาย S1 หรือทางด่วนขั้นที่ 3 สายใต้ ตอน S1 ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) และทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 หรือ มอเตอร์เวย์ ซึ่งสามารถเดินทางไปถึงจังหวัดระยองได้ แม้การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในย่านบางนาปัจจุบันยังไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร เนื่องจากต้องใช้รถประจำทางเพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีเขียว อย่างไรก็ตาม ในอนาคตหากแผนพัฒนาโครงการรถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา หรือ Light Rail สายบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ในแผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพฯและปริมณฑล ระยะที่สอง (M-Map Phase 2) และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินและ EEC กับกรุงเทพฯ เกิดขึ้นจริง จะช่วยเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ย่านบางนา โดยเฉพาะบริเวณถนนบางนา-ตราด ทำให้การเดินทางและการขนส่งสินค้าสะดวกมากขึ้น

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ เปิดเผยว่า ช่วงหลังจากปี 2565 เริ่มมีบ้านจัดสรรที่เปิดขายในราคาไม่ต่ำกว่า 20 - 30 ล้านบาทต่อยูนิตมากขึ้น และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ทำให้คาดการณ์ในระยะยาวได้ว่าจะมีโครงการในระดับราคานี้เพิ่มขึ้นอีกแน่นอน รวมทั้งอาจจะมีบ้านจัดสรรที่มีราคาขายมากกว่า 20 ล้านบาทต่อยูนิต เปิดขายใหม่มากขึ้น บางนา-ตราด อาจเป็นอีกหนึ่งทำเลของกรุงเทพฯและปริมณฑลที่มีบ้านราคาแพงเปิดขายมากต่อเนื่องในอนาคต

สุรเชษฐ กองชีพ

และล่าสุด กลุ่มแสนสิริได้เปิดตัวโครงการ "SANSIRI 10 EAST" บนพื้นที่ 165 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 4 แบรนด์ในพื้นที่เดียวกัน โดยมีบ้านหรูระดับลักชัวรีราคาเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทต่อยูนิต และบางโครงการมีราคาขายเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทต่อยูนิต โดยมีข่าวว่าราคาขายสูงสุดอาจสูงถึง 500 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันศักยภาพของพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะในช่วงหลักกิโลเมตรที่ 10 ของ ถนนบางนา-ตราด 

การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่เพิ่มขึ้นของพื้นที่บางนา-ตราด และคาดว่าจะมีโครงการในระดับราคานี้เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ทำให้บางนา-ตราดกลายเป็นอีกหนึ่งทำเลสำคัญสำหรับที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล