"บางนา-ตราด" หนึ่งในทำเลที่ได้รับความนิยมสูงสุดของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ด้วยความเจริญที่หลากหลายทั้งในเชิงธุรกิจครอบคลุมทุกขนาดการคมนาคมขนส่งและการค้าระหว่างประเทศปัจจัยหนุนหลักที่ช่วยผลักดันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ให้เติบโตหลังเกิดการพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายเตรียมแผนเชิงรุกพร้อมรับกำลังซื้อในอนาคต
บางนา-ตราด ศูนย์กลางทำเลศักยภาพจากปัจจุบันสู่อนาคต
ปัจจุบันทำเลบางนา-ตราด ได้รับการพัฒนาในหลายด้านจนกลายเป็นพื้นที่ศักยภาพสูงไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจในพื้นที่ที่เติบโตต่อเนื่อง ด้วยการลงทุนในโครงการอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และโรงแรมขนาดใหญ่ ทำให้พื้นที่นี้ดึงดูดนักลงทุนและผู้ประกอบการในทุกภาคส่วน ด้านโครงสร้างคมนาคมที่สมบูรณ์แบบ และ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ
เช่น ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ทางด่วนบูรพาวิถี และโครงการรถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา (LRT) สายบางนา-สุวรรณภูมิ พร้อมกับโครงการเชื่อมต่อ Airport Rail Link ระหว่างสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ทำให้พื้นที่นี้มีเครือข่ายการเดินทางที่ครบครันที่สุดในประเทศ และการค้าระหว่างประเทศที่เติบโตแข็งแกร่ง ส่งผลให้เกิดแผนการขยายสนามบินสุวรรณภูมิไปถึง 5 เฟส ตอกย้ำถึงความสำคัญของพื้นที่บางนา-ตราดในฐานะจุดเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจของประเทศ
ทำเลบางนา-ตราดในกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก กำลังกลายเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในยุคนี้ ด้วยความเจริญก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในหลากหลายมิติ ทั้งด้านธุรกิจการค้า โครงสร้างคมนาคม และการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่ส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของพื้นที่ การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้ทำเลบางนา-ตราดกลายเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการอยู่อาศัยและการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยการเชื่อมต่อที่สะดวกสบายและการเติบโตทางธุรกิจในพื้นที่ ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกระดับราคา เกิดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า สถานพยาบาล และสถานศึกษาใหม่ๆ เพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) กล่าว
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ กับโครงการบ้านคุณภาพในทำเลบางนา-ตราด
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในทำเลบางนา-ตราดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโครงการเปิดขายรวม 11 โครงการ มูลค่ารวม 7,940 ล้านบาท ครอบคลุมทุกประเภทที่อยู่อาศัย ได้แก่ โครงการทาวน์โฮม ภายใต้แบรนด์ ไลโอ และ ไลโอ บลิสซ์ เน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ในระดับราคา 2-4 ล้านบาท, โครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ภายใต้แบรนด์ แลนซีโอ คริป สไตล์ฝรั่งเศส ปรับฟังก์ชันได้ ราคาตั้งแต่ 3-6 ล้านบาท และโครงการบ้านเดี่ยวหรู ภายใต้แบรนด์ บ้านลลิล และ ลลิล กรีนวิลล์ ในทำเลพรีเมียม ราคา 5-10 ล้านบาท
ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นและการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในทำเลบางนา-ตราด และสร้างที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพชีวิต การเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน “ลลิลได้ยกระดับสินค้าและบริการเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในทุกปี ดังเช่นที่เราได้นำเสนอแนวทางการออกแบบ French Colonial Style เป็นรายแรกๆ ในตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะมีดีไซน์ที่สวยงามด้านรูปลักษณ์และความออกแบบฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ แบ่งเซกเมนต์สินค้าให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม พร้อมนำ Innovation ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเข้ามาเพิ่มเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในทุก Touch Point ตั้งแต่การวางแผนสินเชื่อไปจนถึงบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความไว้วางใจและความพึงพอใจสูงสุด” นายชูรัชฏ์ กล่าวเสริม
ในอนาคตทำเลกรุงเทพฝั่งตะวันออก จะมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ด้วยความเชื่อมโยงของโครงข่ายคมนาคมและการขยายตัวของธุรกิจที่หลากหลาย ความเจริญของพื้นที่นี้ยังสอดคล้องกับแผนการพัฒนาระดับประเทศ ที่จะช่วยเพิ่มความสำคัญของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย “สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แนวโน้มที่ชัดเจนคือความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มสูงขึ้นจากการขยายตัวของประชากรและการย้ายเข้ามาของบุคลากรในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ การพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและความต้องการในระดับราคาที่แตกต่างกัน จะเป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่นี้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในทุกเซกเมนต์ และกระตุ้นให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ออกแบบโครงการที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในทุกระดับราคาตั้งแต่ระดับกลางจนถึงพรีเมียม ก่อให้เกิดโอกาสในการสร้างชุมชนใหม่ด้วยการเติบโตที่รวดเร็วของพื้นที่ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถนำโอกาสดัง
กล่าวมาพัฒนาให้เกิดเป็นชุมชนที่สมบูรณ์แบบ ตอบสนองทั้งความต้องการด้านการอยู่อาศัยและคุณภาพชีวิต ในภาพรวมการพัฒนาศักยภาพทำเลย่านกรุงเทพฝั่งตะวันออกไม่ได้ส่งผลดีเฉพาะในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะสร้างโอกาสและความเจริญให้กับทั้งเศรษฐกิจในพื้นที่และภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวอีกด้วย” นายชูรัชฏ์ กล่าวสรุป