ถอดรหัส 5 จุดเห็นต่าง ข้อพิพาท 'เขากระโดง' กรมที่ดิน vs การรถไฟ

07 ม.ค. 2568 | 09:02 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ม.ค. 2568 | 09:28 น.

ส่องมุมมองสองขั้ว “รฟท.” กับ “กรมที่ดิน” บนปมความขัดแย้ง “ที่ดินเขากระโดง 5 พันไร่” กับ 5 ประเด็นที่เห็นไม่ตรงกัน

ผ่าปมร้อน ความขัดแย้งเรื่อง “ที่ดินเขากระโดง” จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่าง 2 หน่วยงานรัฐ รถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ภายใต้กระทรวงคมนาคม และกรมที่ดิน ภายใต้กระทรวงมหาดไทย เป็นมหากาพย์กรณีศึกษาข้อพิพาทที่น่าสนใจ

เมื่อล่าสุดทั้ง 2 องค์กร ร่อนแถลงการณ์คำชี้แจงตอบโต้กันไปมาผ่านสื่อ ซ้ำยังตีความกฎหมายและการอ้างสิทธิในที่ดินเขากระโดงไม่ตรงกัน

ฐานเศรษฐกิจ ประมวลและวิเคราะห์แถลงการณ์คำชี้แจงของทั้งสองฝ่าย พบทั้งจุดร่วมและจุดต่างที่น่าสนใจ 

 

จุดที่เห็นตรงกัน

การยอมรับคำพิพากษา : ทั้งสองหน่วยงานยอมรับการมีอยู่และความสำคัญของคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 รวมถึงคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในส่วนที่กรมที่ดินได้ดำเนินการยกเลิกใบไต่สวนของราษฎร 35 ราย และจำหน่าย ส.ค.1 ออกจากทะเบียนการครอบครองที่ดิน ซึ่งเป็นไปตามคำพิพากษาในส่วนของที่ดินที่เป็นคู่ความในคดี

การดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย : ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง โดยอธิบดีกรมที่ดินได้มีคำสั่งที่ 1195-1196/2566 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 แต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวขึ้นมา

 

5 จุดที่เห็นไม่ตรงกัน

 

1.การตีความขอบเขตของคำพิพากษา

จุดยืน รฟท.: 

  • ยืนยันว่าคำพิพากษาครอบคลุมที่ดินทั้งหมด 5,083 ไร่
  • เห็นว่าคำพิพากษาศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์และแนวเขตที่ดินของ รฟท. ทั้งหมด ไม่จำกัดเฉพาะที่ดินพิพาท
  • มองว่าคำพิพากษาสามารถใช้ยันบุคคลภายนอกได้ โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องเป็นรายแปลง

จุดยืนกรมที่ดิน: 

  • ยืนยันว่าคำพิพากษาผูกพันเฉพาะที่ดินที่เป็นคู่ความในคดีเท่านั้น
  • อ้างมาตรา 145 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ว่าไม่สามารถนำไปใช้ยันบุคคลภายนอกได้
  • เห็นว่าต้องมีการดำเนินคดีใหม่กับบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นรายกรณี

2.ความน่าเชื่อถือของแผนที่และหลักฐาน

จุดยืน รฟท.: 

  • อ้างว่ามีแผนที่แสดงเขตที่ดินของกรมรถไฟแผ่นดินที่เป็นหลักฐานสำคัญ
  • เชื่อว่าแผนที่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของพระราชกฤษฎีกา
  • มองว่าหลักฐานที่มีเพียงพอต่อการพิสูจน์กรรมสิทธิ์

จุดยืนกรมที่ดิน: 

  • ชี้ว่าแผนที่ที่ รฟท. อ้างเป็นเพียงแผนที่สังเขปที่จัดทำขึ้นในปี 2539
  • พบว่าแผนที่มีรูปแบบและระยะไม่สอดคล้องตามหลักวิชาการ
  • ระบุว่าไม่พบหลักฐานว่าเป็นแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา

3.การใช้ดุลพินิจของอธิบดีกรมที่ดิน

จุดยืน รฟท.: 

  • เห็นว่าการยุติเรื่องโดยอ้างดุลพินิจเป็นการละเลยขั้นตอนตามกฎหมาย
  • มองว่าเป็นการโต้แย้งพยานหลักฐานที่ศาลได้วินิจฉัยไว้แล้ว
  • เรียกร้องให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ครบถ้วน

จุดยืนกรมที่ดิน: 

  • ยืนยันว่าใช้ดุลพินิจบนพื้นฐานของหลักฐานและความถูกต้อง
  • อ้างว่าการพิจารณาเป็นไปอย่างรอบคอบและเป็นธรรม
  • เห็นว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะเพิกถอนเอกสารสิทธิ์

4.ความชอบด้วยกฎหมายของเอกสารสิทธิ์

จุดยืน รฟท.: 

  • เห็นว่าเอกสารสิทธิ์ที่ออกทับซ้อนไม่ชอบด้วยกฎหมาย
  • เรียกร้องให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทั้งหมดที่ทับซ้อน
  • มองว่าเป็นหน้าที่ของผู้ครอบครองที่ดินต้องพิสูจน์สิทธิของตน

จุดยืนกรมที่ดิน: 

  • ยืนยันว่าการออกเอกสารสิทธิ์เป็นไปตามขั้นตอนและชอบด้วยกฎหมาย
  • อ้างว่าการออกโฉนดผ่านการตรวจสอบและรับรองแนวเขตอย่างถูกต้อง
  • เห็นว่าต้องคุ้มครองสิทธิของประชาชนที่ได้รับเอกสารสิทธิ์โดยชอบ

5.ความขัดแย้งเรื่องระยะทาง

จุดยืน รฟท.: 

  • อ้างว่าทางรถไฟมีระยะทาง 8 กิโลเมตร
  • ใช้แผนที่ของตนเป็นหลักฐานยืนยัน

จุดยืนกรมที่ดิน: 

  • ยืนยันว่าทางรถไฟมีระยะทางเพียง 6.2 กิโลเมตร
  • อ้างอิงจากการสำรวจภาพถ่ายทางอากาศหลายยุคสมัย (ปี 2497, 2511, 2529 และ 2557)
  • มีการยืนยันด้วยการรังวัดในพื้นที่จริงด้วยเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมแบบจลน์ (RTK)

แม้ว่าสงครามคำแถลงระหว่างสองหน่วยงานรัฐยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่สังคมทุกฝ่ายต่างกำลังจับตาว่า "มหากาพย์เขากระโดง" จะจบลงอย่างไร