เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูต 12 ประเทศ จัดกิจกรรม “ทั่วหล้า เทิดไท้ ถวายใจสดุดี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย นำการแสดงทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของแต่ละประเทศทั่วโลก ร่วมถวายพระพรและแสดงความจงรักภักดีภายใต้แนวคิด “มิตรไมตรี” ระหว่างวันที่ 26-29 กรกฎาคม 2567 ณ พาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมตื่นตากับผลงานหัตถศิลป์อันวิจิตร รังสรรค์โดย สกุล อินทกุล บริเวณโซนจีเวล ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
สำหรับพิธีเปิดงานวันที่ 26 ก.ค. 2567 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยได้รับเกียรติจาก อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน พร้อมด้วยเอกอัครราชทูต และตัวแทนจากประเทศต่างๆ ตลอดจนผู้บริหาร อาทิ คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม, พาสินี ลิ่มอติบูลย์, เกตุวลี นภาศัพท์, ศีลวัต สันติวิสัฎฐ์, ชฎาทิพ จูตระกูล, อารยา ภู่พานิช และ ณัฐวรรณ ทีปสุวรรณ มาร่วมงาน และชมการแสดงของประเทศไทยโดยมีไฮไลท์การแสดง เดี่ยวระนาดเอก โดย อาร์ม-กรกันต์ สุทธิโกเศศ และการแสดงชุดรัตนโกสินทร์เรืองรองจาก ดร.สุรัตน์ จงดา โดยมีนักแสดงสาว ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร ร่วมแสดงด้วย
• การแสดงสุดพิเศษจากสถานเอกอัครราชทูต 12 ประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึง 29 กรกฎาคม 2567
สยามพารากอน Global Destination อันดับ 1 ที่ครองใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตจาก 12 ประเทศ นำการแสดงสุดพิเศษมาร่วมถวายพระพรและแสดงความจงรักภักดีภายใต้แนวคิด “มิตรไมตรี” ได้แก่ ออสเตรเลีย นำเสนอการแสดงเต้นร่วมสมัยในชื่อ Shared Language, ภูฏาน นำการแสดงระบำหน้ากากที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี และการแสดงนิทานพื้นบ้านอันหาชมได้ยาก, จีน มาพร้อมงานแสดงทางวัฒนธรรมพื้นบ้านเอ็งกอ ซึ่งเป็นการแสดงที่ผสมผสานรูปแบบต่างๆ เช่น ศิลปะการต่อสู้ อุปรากรจีน และการเต้นรำ, ฝรั่งเศส ชวนเพลิดเพลินไปกับการแสดงเดี่ยวเปียโน และศิลปินร่วมขับร้องบทเพลงอันไพเราะ, อินเดีย นำการแสดงนาฏศิลป์ รามายณะ ตอนนารายณ์อวตาร
อินโดนีเซีย เพลิดเพลินกับดนตรีนาฏศิลปินอินโด การระบำดอกไม้ของบาหลี การเล่นอังกะลุงเพลงพื้นบ้าน และรำระโถห์จาโร, ญี่ปุ่น นำการแสดงสาธิตศิลปะการต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์อย่างคาราเต้ มาให้ชมอย่างใกล้ชิด, เกาหลีใต้ ยกขบวนเครื่องดนตรีพื้นบ้านของเกาหลี ขบวนแห่เฉลิมฉลอง ระบำกลองจินโด ตีกลองโมดิมพุค และการบรรเลงคายนากึมร่วมกับดนตรีไทย, ลาว รวบรวมการแสดงฟ้อนรำ ศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านที่แสนงดงามอันหลากหลายและรับชมการออกแบบท่าจากศิลปินแห่งชาติจากประเทศลาว, เนเธอร์แลนด์ นำการแสดงดนตรีแจ๊ส โดยวง Jazziam และ Athalie นักร้องชาวดัชต์เสียงหวานหัวใจไทย ที่จะมาขับกล่อมเพลงแจ๊ส และ ขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ “เตือนใจ” เป็นภาษาดัตช์, สเปน มาพร้อมการเต้นรำฟลาเมงโก ที่มีชื่อเสียงเป็นเอกลักษณ์และออกแบบท่าเต้นเป็นพิเศษในโอกาสสำคัญนี้, สหรัฐอเมริกา เฉลิมรัฐ ฉลองราชย์ การแสดงเสียงร้องทรงพลังในรูปแบบละครเพลงบรอดเวย์เพื่อสรรเสริญพระราชา และสำหรับประเทศไทย นำการแสดงโขนและนาฏศิลป์ร่วมสมัย มาถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ อาทิ รัตนโกสินทร์เรืองรอง, จตุรทิศแผ่นดินไทย, ตำนานวสันตนิยาย และ มรดกภูมิปัญญาศิลปะต่อสู้ไทย รวมถึงการแสดงดนตรีจากกรุงเทพมหานครฯ มาจัดแสดงให้ประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้สัมผัสถึงความงดงามของศิลปวัฒนธรรมในโอกาสมหามงคลนี้
• “บุษบัญชลี มาลีนพรัตน์เฉลิมพระชนม์” หัตถศิลป์สุดตระการตา ณ โซนจีเวล ชั้น M ระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2567
สยามพารากอนชวนสัมผัสวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าและจิตวิญญาณความเป็นไทย ผ่านงานประติมากรรมสุดตระการตา ภายใต้ชื่อ “บุษบัญชลี มาลีนพรัตน์เฉลิมพระชนม์” สร้างสรรค์ผลงานโดย สกุล อินทกุล ศิลปินนักจัดดอกไม้ระดับนานาชาติ ซึ่งปัจจุบันผันตัวเป็นศิลปินร่วมสมัยที่เน้นงานประติมากรรม ควบคุมการผลิตดอกไม้ไทยประดิษฐ์โดย ผศ.ดร.จักรพันธ์ รูปงาม หัวหน้าสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ศึกษา คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ร่วมด้วยนักศึกษาคหกรรมศาสตร์ศึกษาอีกหลายร้อยชีวิต ที่หลอมรวมใจรังสรรค์ผลงานอันวิจิตรงดงามเพื่อร่วมถวายพระพรและแสดงออกถึงความจงรักภักดี
สกุล อินทกุล กล่าวถึงการรังสรรค์ผลงานมาสเตอร์พีซครั้งนี้ว่า “นับเป็นครั้งแรกของการทำงานที่ยิ่งใหญ่และเป็นโอกาสพิเศษ สำหรับศิลปินแล้ว ผลงานที่จัดแสดงในครั้งนี้ มีความท้าทายมากแตกต่างจากการจัดแสดงงานในแกลเลอรี่ เนื่องจากสยามพารากอนถือเป็นเดสติเนชั่น ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากมายมหาศาล ดังนั้นจะทำอย่างไรให้งานที่ปรากฎตรงหน้าสะกดทุกสายตา ให้คนถ่ายรูปและแชร์ออกไปได้ งานจึงต้องมีความร่วมสมัยอยู่ในนั้น ซึ่งจะได้เห็นว่าผลงานชิ้นนี้นอกจากจะแสดงถึงวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของความเป็นไทยแล้ว ยังเป็นงานที่ร่วมสมัย คนทุกเพศทุกวัยสัมผัสได้ถึงความสวยงาม และยิ่งหากได้รับรู้ถึงแรงบันดาลใจและรายละเอียดของงานแล้ว ยิ่งเป็นการยกระดับคุณค่าผลงานให้มากขึ้น และที่ลึกซึ้งไปกว่านั้นคือ การได้ร่วมถวายพระพร และแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสมหามงคลนี้”
สำหรับผลงานสุดตระการนี้ สกุลได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกไม้ไทยนานาพรรณ โดยเฉพาะดอกรวงผึ้ง ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำพระองค์จำนวน 46 ดอก รังสรรค์เป็นงานคราฟท์โดยใช้ผ้าแทนดอกไม้สด ผสานเทคนิคการพับจับจีบกลีบใบตอง อาทิ กลีบรังแตน, กลีบกระทุ้ง, กลีบรักเร่, กลีบผกาซ้อน, กลีบเล็บมือนาง ฯลฯ ส่วนเกสรของดอกไม้แต่ละดอกแสดงถึงสัญลักษณ์ความเป็นไทยในรูปแบบคล้ายปั้นเหน่ง พร้อมแต่งแต้มด้วยผ้าตาดแทนสีของอัญมณีสิริมงคล อาทิ เพชร มุก มรกต ทับทิม เพทาย บุษราคัม โกเมน ไพลิน ไพทูรย์ เมื่อผสานกับการออกแบบร่วมสมัย จึงกลายเป็นผลงานหัตถศิลป์ที่สะกดทุกสายตา
นอกจากนี้ในฐานะที่สกุลเคยมีโอกาสถวายงานรับใช้สมเด็จนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงนำดอกกล้วยไม้คัทลียาควีนสิริกิติ์ ซึ่งเป็นดอกไม้ตามพระนามาภิไธยมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานครั้งนี้ด้วย เนื่องจากในเชิงสัญลักษณ์ ดอกกล้วยไม้คัทลียาควีนสิริกิติ์ เป็นหนึ่งในดอกไม้พระนามของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้อัญเชิญมาไว้ด้วยกัน ซึ่งเปรียบเสมือนสายใยแห่งความรักของทั้งสองพระองค์ โดยดอกกล้วยไม้พระนามนี้ ได้นำเสนอด้วยเทคนิคการถักตาข่ายของงานประดิษฐ์ดอกไม้ไทย โดยประดิษฐ์จากทั้งดอกรัก และดอกพุด เป็นลวดลายที่แตกต่างหลากหลายลวดลายด้วยกัน
ขอเชิญประชาชนร่วมเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมชมการแสดงสุดพิเศษจากประเทศต่างๆ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ถึง 29 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 13.00 – 19.00 น. ณ พาร์ค พารากอน ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-610-8000 หรือติดตามรายละเพิ่มเติม เฟสบุ๊ค : SIAMPARAGON