“เศรษฐา” ลั่นนโยบายกีฬาทำได้ใน 100 วัน หลังประชุม ครม. นัดแรก

04 ก.ย. 2566 | 10:12 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ย. 2566 | 10:12 น.

“เศรษฐา ทวีสิน” มั่นใจดันนโยบายด้านกีฬาภายใน 100 วัน หลังประชุม ครม. นัดแรก พร้อมเร่งจ่ายเงินค้างสมาคม คาดหวังโอลิมปิกรอบหน้านักกีฬาไทยจะคว้าได้มากกว่า 1 เหรียญทอง สร้างรอยยิ้มให้คนไทย

(4 ก.ย. 66) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการพบปะ นักกีฬาจาก สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่เดินทางมาให้กำลังใจและร่วมแสดงความยินดีหลังได้รับตำแหน่ง โดยนายกฯ ระบุว่า นโยบายเกี่ยวกับด้านการกีฬาของประเทศไทยนั้น ยืนยันว่ามีหลายนโยบายที่สามารถเดินหน้าได้ทันทีภายใน 100 วัน นับจากวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในนัดแรก 

ซึ่งทาง นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีการหารือถึงแนวทางการดำเนินงานมาก่อนหน้านี้ ซึ่งมั่นใจว่าหลายๆ นโยบายจะดำเนินการได้ทันที

โดยเฉพาะเรื่องที่สำคัญในการ "จ่ายเงินที่ค้างกับทางสมาคมต่างๆ" จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพราะเงินที่ค้างจ่ายถือเป็นปัญหาใหญ่ของหลายๆ สมาคม

“เศรษฐา” ลั่นนโยบายกีฬาทำได้ใน 100 วัน หลังประชุม ครม. นัดแรก

ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี และควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเร่งเดินหน้า "โครงการ 1 กีฬา1 รัฐวิสาหกิจ" ทันที เพื่อผลักดัน และยกระดับกีฬาของไทย โดยสมาคมกีฬาไหนที่ประสบความสำเร็จ จะได้รับการอัดฉีดงบที่มากขึ้น แต่สมาคมที่ยังไม่แข็งแรงพอ ก็จะเร่งผลักดันให้เติบโตขึ้น

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงความคาดหวังของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับกีฬาไทย โดยนายกฯ ระบุว่า ความคาดหวังก็อยากจะให้ประเทศไทยกลับมาเป็นเจ้าซีเกมส์อีกครั้ง เพื่อทำให้คนไทยมีรอยยิ้มจากกีฬา 

รวมทั้งยังคาดหวังถึงการแข่งขันโอลิมปิก ที่อยากให้นักกีฬาไทยมีเหรียญทองกลับมาฝากคนไทยมากกว่า 1 เหรียญทอง

ขณะที่การแข่งขันรายการ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ "King's Cup" หากไม่ติดภารกิจก็อยากเดินทางไปให้กำลังใจนักเตะไทย

"ในวันนี้ต้องขอบคุณกำลังใจที่มีให้กัน ส่วนในเรื่องความคาดหวัง กีฬาไทย เรามีความพยายามจะแยก เรื่องกีฬาออกจากการเมือง และเศรษฐกิจ เนื่องจากหากวงการกีฬาไทยมีผลงานที่ดี ตื่นเช้ามาก็จะช่วยให้คนไทยทุกคนมีรอยยิ้ม โดยส่วนตัวนอกจากการอ่านหนังสือพิมพ์หน้า 1 แล้ว หน้ากีฬาก็ถือเป็นหน้าแรกๆ ที่ชอบเปิดอ่าน" นายเศรษฐา กล่าว