รัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดการขยะพลาสติกซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม และประเทศไทยได้มีการกำหนด Roadmap (แผนที่นำทาง) การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 มี 2 เป้าหมาย คือ
1 . การลดและเลิกใช้พลาสติกเป้าหมายด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
2 . การนำขยะพลาสติกเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ร้อยละ 100 ภายในปี 2570
โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้นโยบายและติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างความยั่งยืนในการจัดการขยะพลาสติกของประเทศ
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย คพ. และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้รณรงค์การลด เลิกใช้พลาสติก และส่งเสริมให้เกิดการนำพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ ผ่านกิจกรรมรณรงค์ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดรับลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก”
ภายใต้โครงการ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม” สามารถลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว และโฟมบรรจุอาหาร ในพื้นที่ตลาดสดเทศบาลและเอกชน รวมถึงพื้นที่ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ ทั่วประเทศ ได้กว่า 3,414 ล้านใบ หรือประมาณ 9,824 ตัน
โดยเริ่มกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2561 - 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้ประชาชนหันมาให้ความสนใจกับปัญหาขยะพลาสติกมากยิ่งขึ้น และยังสร้างการมีส่วนร่วมให้กับประชาชนในการช่วยกันลด และเลิกใช้ถุงพลาสติกเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกในประเทศ
จากความร่วมมือดังกล่าวทำให้ต่อมาได้มีการยกระดับการดำเนินงาน โดยร่วมกับเครือข่ายห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 90 บริษัท ทั่วประเทศ ร่วมงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้วแบบใช้ครั้งเดียว “Everyday Say No To Plastic Bags” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 - ธันวาคม 2565
สามารถลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วแบบใช้ครั้งเดียว รวมทั้งสิ้น 14,349.6 ล้านใบ หรือ 81,531 ตัน ซึ่งประชาชนกว่าร้อยละ 90 เห็นด้วยกับการรณรงค์ในเรื่องนี้ นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินกิจกรรมการรณรงค์การลด และเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวอย่างต่อเนื่อง อาทิ
การส่งเสริมสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดทำตลาดสดต้นแบบ มาตรการลดและคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานภาครัฐ โครงการเปลี่ยนพลาสติกเป็นบุญ (เมื่อคุณหมุนเวียน)
ทำให้สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกในภาพรวม ลดลง 43% หรือ 148,699 ตัน (ข้อมูลจากการประเมินผลการดำเนินงานตามเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการฯ จนถึงปี 2564 ร่วมกับสถาบันพลาสติก โดยใช้ฐานข้อมูล Material Flow of Plastics)
เมื่อแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563 – 2565) สิ้นสุดลง เพื่อให้การขับเคลื่อนการดำเนินงานเกิดความต่อเนื่อง คพ. จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีมติเห็นชอบไปแล้ว และคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนปฏิบัติการฯ ระยะที่ 2
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งมีกรอบแนวคิด : ยกระดับการจัดการขยะพลาสติกให้ดีขึ้นกว่าเดิมตามลำดับความสำคัญของการจัดการขยะรูปแบบใหม่ ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการบริโภคที่ยั่งยืน การเลือกใช้สินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่สามารถใช้ซ้ำ ใช้แนวทางการจัดการขยะมูลฝอยผสมผสาน เพื่อให้มีการนําทรัพยากรกลับคืนจากของเสียให้มากที่สุดในรูปแบบวัสดุรีไซเคิล และพลังงาน
ทำให้เหลือขยะที่ต้องกำจัดให้น้อยที่สุด มีเป้าหมาย
1. ปริมาณขยะพลาสติกเป้าหมาย (ขวดพลาสติก (ทุกชนิด) ฝาขวด บรรจุภัณฑ์ฟิล์มพลาสติกชั้นเดียว ถุงพลาสติกหูหิ้ว และถ้วย/แก้วพลาสติก) ที่เข้าสู่ระบบฝังกลบขยะลดลง ร้อยละ 100
2. ผลิตภัณฑ์พลาสติกเป้าหมายเข้าสู่ระบบรีไซเคิล ร้อยละ 100 และ (3) ลดปริมาณขยะพลาสติกที่มีโอกาสหลุดรอดลงสู่ทะเล ร้อยละ 50 นายปิ่นสักก์ กล่าว