นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่าบริษัท พีทีทีอีพี เอชเค ออฟชอร์ จำกัด หรือ พีทีทีอีพี เอชเคโอ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ได้เริ่มขุดเจาะหลุมสำรวจปาปริก้า-1 (Paprika-1) ในโครงการมาเลเซีย เอสเค410บี เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 โดยได้ค้นพบก๊าซธรรมชาติในชั้นหินตะกอนที่ระดับความลึก 3,348 เมตร
ทั้งนี้ นับเป็นการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งที่ 2 ในโครงการดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ ปตท.สผ. ร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ บริษัท คูเวต ปิโตรเลียมฯ และปิโตรนาส ชาริกาลี ได้ค้นพบแหล่งลัง เลอบาห์ ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ในโครงการเดียวกัน
สำหรับหลุมสำรวจ ปาปริก้า-1 เป็นหลุมสำรวจแรกของ ปตท.สผ. ในปีนี้ในมาเลเซีย โดยได้ค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติที่มีคุณภาพสูงซึ่งมีโอกาสที่จะสามารถพัฒนาร่วมกับแหล่งใกล้เคียง ทางตอนเหนือของนอกชายฝั่งรัฐซาราวัก (Northern Sarawak Clastic Hub)
ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้เป็นอย่างดี ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือของกลุ่มผู้ร่วมทุน รวมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของโครงสร้างทางธรณีวิทยา เพื่อค้นหาปิโตรเลียมแหล่งใหม่เพิ่มเติมในแปลง
โครงการมาเลเซีย เอสเค410บี อยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองมีรี รัฐซาราวัก ประมาณ 90 กิโลเมตร และอยู่ติดกับโครงการมาเลเซีย เอสเค417 ซึ่ง ปตท.สผ. ได้สำรวจพบแหล่งก๊าซธรรมชาติเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งในอนาคตสามารถใช้อุปกรณ์การผลิตต่าง ๆ ร่วมกันได้
สำหรับผู้ร่วมทุนโครงการมาเลเซีย เอสเค410บี ประกอบด้วย พีทีทีอีพี เอชเคโอ ถือสัดส่วนการลงทุน 42.5% และเป็นผู้ดำเนินการ บริษัท คูเวต ปิโตรเลียมฯ มาเลเซีย (เอสเค-410 บี) จำกัด (KUFPEC) 42.5% และบริษัท ปิโตรนาส ชาริกาลี จำกัด (PCSB) 15%
นอกจากโครงการมาเลเซีย เอสเค410บี ปตท.สผ. ยังมีการลงทุนในประเทศมาเลเซียอีกหลายโครงการ ได้แก่ เอสเค405บี, เอสเค438, เอสเค314เอ, เอสเค417, พีเอ็ม407, พีเอ็ม415 และ เอสบี412 ซึ่งทั้งหมดอยู่ในระยะสำรวจ และมีโครงการที่อยู่ในระยะผลิตได้แก่ แปลง เค, เอสเค309, เอสเค311, แหล่งโรตัน-บูลูห์ ในแปลง เอช และโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย กับพีซี เจดีเอ จำกัด