เชลล์-ปอร์เช่ ผนึก SHARGE ผุดสถานีชาร์จอีวีความเร็วสูงสุดในไทย

12 ม.ค. 2566 | 10:10 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ม.ค. 2566 | 17:26 น.

Shell ผนึก Porsche -SHARGE จับมือติดตั้งสถานีชาร์จอีวี ความเร็วสูงที่สุดในไทย 11 แห่ง พร้อมพัฒนาแอปฯค้นหาจุดชาร์จ ไทย-มาเลเซีย เชื่อมเครือข่าย EV Charger ยาวที่สุดในอาเซียน 2,200 กิโลเมตร คาดเปิดให้บริการได้ครบเร็ว ๆ นี้

นายเรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย กรรมการบริหาร ธุรกิจโมบิลิตี้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า เชลล์ ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานระดับโลก ด้วยกลยุทธ์ Powering Progress มีเป้าหมายสู่การเป็นธุรกิจพลังงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emission) ภายในปี พ.ศ. 2593 เชลล์จึงพัฒนาโซลูชันด้านพลังงานหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการพลังงานมากขึ้น โดยเฉพาะพลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ ไฮโดรเจน พลังงานลม เชื้อเพลิงชีวภาพ และพลังงานไฟฟ้า

 

ทั้งนี้ เชลล์มีความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนผ่านพลังงาน เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ จึงได้ร่วมกับบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ผู้นำด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem ในการให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงในไทยรายแรกของเชลล์ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงพลังงานสะอาด และเป็นการขยายเครือข่ายการให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ยาวที่สุดของเชลล์ จากสิงคโปร์ มาเลเซียและเข้าสู่ประเทศไทย ถือเป็นการขับเคลื่อนการเดินทางสำหรับอนาคตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เกิดเส้นทางสัญจรที่ปราศจากมลภาวะมุ่งสู่การเดินทางที่ยั่งยืน

 

สำหรับการดำเนินงานครั้งนี้ ทาง SHARGE จะติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ขนาด 180kW ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงที่สุดในไทยให้แก่สถานี “Shell Recharge” และสถานีชาร์จยานยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง (HPC) ทั้ง 11 แห่งในไทย ตามโรดแมปการขยายเครือข่าย EV Charger ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามพรมแดน 3 ประเทศ คือไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถชาร์จพลังงานจาก 0% State of Charge (SoC) ถึงระดับ 80% ภายใน 30 นาที เดินทางได้สูงสุดถึง 390 กิโลเมตร

เชลล์-ปอร์เช่ ผนึก SHARGE ผุดสถานีชาร์จอีวีความเร็วสูงสุดในไทย

 

นายเรืองศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับบริษัท ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก (Porsche Asia Pacific) ผู้ผลิตรถสปอร์ตสมรรถนะสูงชั้นนำของโลก ในการยกระดับ EV Infrastructure ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อมอบเอกสิทธิ์การดูแลที่เหนือระดับสำหรับเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) ที่เป็นลูกค้ารายใหม่ในประเทศไทย จะได้รับสิทธิพิเศษสำหรับสถานะสมาชิกระดับ Platinum โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอด 3 ปี

 

ทั้งนี้สามารถจองใช้บริการล่วงหน้า 1 ชั่วโมง โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมจอง พร้อมรับส่วนลด 50% สำหรับการชาร์จสูงสุด 850 kW ต่อปี และคะแนน Shell GO+ ถึง 10,000 คะแนน สำหรับแลกรับส่วนลดการเติมน้ำมัน หรือซื้อสินค้าและบริการในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ เช่น ร้านสะดวกซื้อเชลล์ ซีเล็ค ร้านเชลล์ คาเฟ่ หรือ เดลี่คาเฟ่ เมื่อใช้บริการสถานี Shell Recharge ผ่านแอปพลิเคชัน SHARGE

 

นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) กล่าวว่า ด้วยนวัตกรรม HPC อันแข็งแกร่งของ SHARGE กับ 2 บริษัทระดับโลกอย่าง Shell และ Porsche จะช่วย Scale Up ภารกิจขยาย EV Infrastructure ของบริษัทให้ไปไกลกว่าเดิม ที่จะร่วมกันสร้างเครือข่ายใหญ่ระดับภูมิภาคให้ผู้ใช้รถ EV เข้าถึงสถานีชาร์จประสิทธิภาพสูงที่เร็วแรงที่สุดได้ง่ายขึ้น

 

อีกทั้ง เป็นโอกาสสำคัญของวงการ EV Charger ประเทศไทย ที่ได้ยกระดับเทคโนโลยีการให้บริการสู่มาตรฐานสากลระดับโลก สามารถเชื่อมเข้ากับเครือข่าย EV Charger แบบข้ามพรมแดนได้เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงความพร้อมของ SHARGE ในการเดินหน้าขยายบริการ EV Charger ไปยังประเทศต่าง ๆ ในอนาคต

 

ขณะเดียวกัน ด้วยมาตรฐานการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการ EV Charger ระดับสากล บริษัทยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ผสานการทำงานระหว่างแอปพลิเคชันแบบข้ามประเทศ (Cross Border Integration) เชื่อมโยงแอปพลิเคชันของ SHARGE เข้ากับแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการสถานี HPC 6 แห่งในมาเลเซีย

 

ส่งผลให้ผู้ใช้บริการรถ EV ทุกคันสามารถค้นหาสถานี HPC ของ Shell Recharge ในมาเลเซีย รวมถึงจองคิว และจ่ายเงินได้ผ่านแอปฯ SHARGE สานฝันการเป็นเครือข่าย EV Charger ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2,200 กิโลเมตรของ Shell และ Porsche ส่งผลให้ SHARGE เป็นผู้ให้บริการ EV Charger รายแรกของประเทศไทยที่ขยายการให้บริการไปสู่ระดับภูมิภาค

 

เบื้องต้น บริษัทคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งเครื่องชาร์จความเร็วสูงให้แก่สถานี HPC ของ Shell Recharge ทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศได้อย่างต่อเนื่อง จนเปิดให้บริการทุกแห่งได้เร็ว ๆ นี้ และเชื่อมโยงบริการแอปพลิเคชันกับมาเลเซียเสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปี 2566 ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนขยายความร่วมมือกับ Shell อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าความร่วมมือทั้งหมดจะส่งผลให้ยอดผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน SHARGE ทะลุ 20,000 ราย และช่วยให้บริษัทสามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้บริการ EV Charger ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค